“ห..หยุดก่อนครับ
ผมยังนวดไม่เสร็จ อื้อ...”
ทั้งเสียงทั้งมือไม้สั่นไหวไม่ต่างจากก้อนกำปั้นในอกเมื่อขาอ่อนทั้งสองข้างถูกรุกรานด้วยฝ่ามือหยาบ
พยายามยกมือดันหลังเขาออกแต่เหมือนกับว่ามันเป็นการเรียกร้องให้เขาหันกลับมาสนใจกันเสียมากกว่า
คุณชานเลี่ยเอี้ยวตัวกลับมากดจูบลงบนริมฝีปากของผมแบบไม่ปล่อยโอกาสให้ตั้งตัว
ฝ่ามือยังคงไล่บีบเค้นขาอ่อนเลยไปจนถึงสะโพก
เขาปั่นป่วนความรู้สึกกันด้วยจูบร้อนๆที่ไร้ซึ่งความดุดัน
มีแต่ความอ่อนหวานที่น่าลุ่มหลงให้ยอมโอนอ่อนตามเขาไป แต่ผมรู้...ว่าภายใต้ความเงียบสงบแสนหวานนี้มีพายุลูกใหญ่ที่พร้อมจะโหมกระหน่ำในค่ำคืนนี้
เขาผละริมฝีปากออกไปแล้วหมุนตัวกลับไปนั่งพิงขอบอ่างอีกฝั่งตามเดิม
ทั้งเนื้อทั้งตัวร้อนวูบวาบไปหมดเมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังอยู่ในท่าทางที่เปิดโอกาสให้เขาสำรวจร่างกายเปลือยเปล่าได้ตามใจชอบ
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ขยับขาเข้ามาปกปิดร่างกายไว้เช่นเดิมก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
คุณชานเลี่ยดึงรั้งข้อเท้าทั้งสองข้างไว้แล้วกดฝ่าเท้าให้แนบลงบนอกด้านซ้ายของเขา
“ให้แบคฮยอนหมดแล้วนะ
ทั้งตัวแล้วก็ตรงนี้” เขาวางฝ่ามือทับบนหลังเท้าแล้วกดยิ้มให้ผม
เป็นวินาทีที่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ที่มีแต่ความตื้นตันใจ ความรัก และปาร์ค
ชานเลี่ย
“ฮ
เฮียเลี่ยปล่อยก่อนนะครับ มันไม่ดี”
“มันดีที่สุดแล้วที่เฮียได้รักแบคฮยอน”
จู่ๆขอบตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อเขาก้มหน้าลงกดจูบลงบนปลายนิ้วโป้งเท้าทั้งสองข้าง
“รักจริงๆนะคนนี้น่ะ”
ผมค่อยๆชักฝ่าเท้าทั้งสองข้างออกแล้วโผตัวเข้าไปหา
นั่งคุกเข่ายกสองแขนคล้องคอคนตรงหน้าไว้ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผาก
ไล่ลงมาที่จมูกโด่งแสนซุกซน และจบลงที่ริมฝีปากร้ายกาจ
“ผมก็รักเฮีย
อะ...”
และในตอนนี้กลายเป็นผมที่ถูกจับให้นั่งหันหลังพิงอกของเขาเสียแทน ความร้อนรุ่มที่ดุนดันสะโพกอยู่ใต้น้ำยิ่งขับให้ข้างแก้มแดงเรื่อจนคนตัวโตกว่าต้องโน้มใบหน้าเข้ามาหอมเข้ามาฟัด
“ไม่ต้องอาบน้ำแล้วมั้ง”
เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหูก่อนจะงับเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว
ขาทั้งสองข้างตั้งชันขึ้นอย่างน่าอายด้วยฝ่ามือใหญ่ที่เป็นฝ่ายจัดแจงท่าทางให้สะดวกต่อการรังแก
ผิวต้นคอขาวแทบจะแดงเป็นปื้นเพราะไรหนวดตรงปลายคางถูไถไปมา
เสียงจูบและดูดดึงผิวเนื้อดังขึ้นข้างหูทำให้ผมหลับตาแน่นกลบความเขินอาย
เผลอร้องครางเบาๆยามที่เขาแต่งแต้มร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของไว้ที่ลาดไหล่
ฝ่ามือหนาข้างที่ใช้รวบเอวลูบไล้ขึ้นมาแตะยอดอก
ใช้ปลายนิ้วบีบคลึงจนร่างกายกระตุกเมื่ออารมณ์ทะลึ่งกำลังถูกปลุกขึ้น
ในขณะที่มืออีกข้างที่ว่างก็ไล้ต่ำลงไปตรงกลางลำตัว
ขยับเข้ากอบกุมชักนำไปอย่างช้าๆ
“อ...อื้อ”
ผมบีบนิ้วลงบนท่อนแขนของเขาเพื่อระบายอารมณ์วาบหวาม เงยหน้าพิงศีรษะลงกับไหล่หนาพลางเผยอปากหอบหายใจเมื่อเขาเร่งจังหวะเร็วขึ้นทั้งสองมือ
ยิ่งถูกเร่งเร้ามากขึ้นเท่าไหร่เสียงครางและเสียงหอบก็ถี่กระชั้นมากขึ้นเท่านั้น
จังหวะหนึ่งที่ผมเกือบสำลักอากาศเมื่อเขาป้อนจูบลงมาทั้งๆที่มือสองข้างก็ยังรังแกกันไม่เลิก
ทั้งกลีบปากและพวงแก้มแดงเรื่อดึงดูดสายตาของคนเอาแต่ใจเอาไว้จนต้องไล้แตะปลายจมูกกับริมฝีปากวนไปเวียนมาไม่ห่าง
“อ๊ะ
อา...”
“ไม่ได้ช่วยตัวเองเลยเหรอหืม”
ผมหลับตาเอียงหน้าซบไปกับไหล่ซ้ายของเขาเมื่อโดนกดจูบที่ปลายคางพร้อมคำกระซิบบอกว่าคนเก่ง
ความต้องการถูกปลดปล่อยออกไปผ่านการชักนำที่แสนร้ายกาจของคุณชายสองจนแทบหมดเรี่ยวแรง
“...ใครจะไปทะลึ่งแบบเฮีย”
เถียงเสียงแผ่วในขณะที่ร่างทั้งร่างถูกช้อนขึ้นจากอ่างอาบน้ำ
ร่างกายเปลือยเปล่าถูกห่มทับด้วยผ้าเช็ดตัวผืนนุ่ม
จะมีก็แต่คนลามกคนนั้นที่เดินโป๊ออกจากห้องน้ำพาตัวผมขึ้นเตียง
ผมรีบม้วนตัวเข้าหาผ้าห่มอีกชั้นหนึ่งเพราะอุณหภูมิภายในห้องนอนค่อนข้างเย็นกว่าในห้องน้ำ
อีกนัยหนึ่งก็เพราะต้องการหลบสายตาคนโป๊ที่ยืนท้าฟ้าท้าดินอยู่ปลายเตียงนั่นแหละ
“ไม่รอดแล้วรู้ตัวใช่ไหม”
“...”
“หลังจากนี้ถึงจะร้องไห้งอแงเฮียก็ไม่หยุดให้เรานะ”
ผ้าห่มที่ใช้คลุมหัวถูกดึงออกดด้วยฝีมือของคนที่กดกายทาบทับลงมา
ร่างกายของผมกับเขามีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกั้นเอาไว้
แก้มทั้งสองข้างถูกกอบกุมช้อนให้ขึ้นมาสบนัยน์ตาดุแบบเลี่ยงไม่ได้
“จ
จะไม่เห็นใจกันหน่อยเหรอครับ”
“ถ้าแบคฮยอนไม่ชอบก็คงปฏิเสธเฮียไปตั้งแต่เริ่มแล้ว”
ดูเขาพูดเข้าสิ!
“งั้นผมไม่...”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่รอด”
รอยยิ้มร้ายกาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงเพื่อรองรับจูบของจริงที่ไม่ได้อ้อยอิ่งเหมือนในห้องน้ำ
คุณชานเลี่ยดูดคลึงกลีบปากอยู่ครู่เดียวก็สอดแทรกปลายลิ้นเข้ามาปั่นป่วนภายในโพรงปาก
กวาดต้อนไล้เล็มเก็บน้ำหวานจนผมจิกนิ้วลงบนหลังคอ ร่างกายที่ถูกเตรียมพร้อมไปแล้วครั้งหนึ่งถูกจุดติดได้ง่ายกว่าเดิมเพียงแค่เขาเค้นคลึงผิวกาย
ฝ่ามือใหญ่ปัดป่ายผ่านยอดอกไล้ลงไปบีบเค้นช่วงเอวก่อนที่ริมฝีปากร้อนรุ่มจะกดสัมผัสลงมาครอบครองดูดดึงจนเกิดเสียงน่าอาย
“อื้อ...เบาๆ”
“เจ็บเหรอ”
“ผมแค่ยัง...ไม่ชิน
อ้ะ...”
“เดี๋ยวจะทำให้ชินเอง”
เขาก้มลงไปยุ่มย่ามกับยอดอกทั้งสองข้างอีกครั้งโดยที่ยอมใจดีเบาแรงดูดคลึงลงเพียงเล็กน้อย
ผมเผยอริมฝีปากกอบโกยอากาศเข้าปอดอยู่ได้เพียงไม่นานนัก
ร่างกายส่วนล่างก็ถูกรุกรานจนปลายเท้าจิกเกร็งลงกับผืนเตียง
สองขาตั้งชันเปิดรับร่างกายใหญ่โตให้สอดแทรกเข้ามาบดเบียดโดยไม่รู้ตัว
แกนกายใหญ่ที่ขยายขนาดเต็มที่ถูไถอยู่กับบั้นท้ายไปมาเหมือนจะยั่วอารมณ์กันให้ซ่านเสียวมากขึ้นไปอีก
ท่อนแขนหนั่นเนื้อย้ายมาช้อนเข้าใต้ข้อพับขาพร้อมกับสัมผัสนุ่มหยุ่นจากริมฝีปากไล่กดจูบลงมาจนถึงหน้าท้อง
ผมหอบหายใจถี่ เกร็งไปหมดทั้งร่างกายยามที่เขาสอดปลายลิ้นเข้ามาไล้วนรอบสะดือ
รสสัมผัสครั้งนี้เร้าอารมณ์ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
อาจเพราะความห่างกับเรื่องบนเตียงถึงสามสี่เดือนยิ่งทำให้เราอยากเติมเต็มให้กันและกันมากกว่าที่เคย
หรืออาจเพราะไรหนวดร้ายกาจที่ถูไถไปทั่วทุกตารางนิ้วที่เขาลากริมฝีปากพาดผ่าน ส่วนกลางลำตัวถูกเขาครอบครองปลุกปั่นด้วยโพรงปากอีกครั้ง
เพียงแค่รูดรั้งและละเลงปลายลิ้นลงที่ส่วนปลายผมก็แทบจะปลดปล่อยครั้งที่สองอยู่รอมร่อ
“อะ...อย่าแกล้งผม”
ร้องท้วงขึ้นอย่างลืมอายเมื่อสัมผัสร้อนรุ่มละออกไปในจังหวะที่อารมณ์เกือบจะแตะถึงขีดสุด
“เดี๋ยวจะแกล้งให้ร้องเลย”
“ปล่อย...ฮื่อ”
ผมช้อนตามองคนด้านบนตาปรอย
น้ำสีใสเคลือบไปทั่วขอบตาเมื่ออารมณ์วาบหวามถูกเบรกไว้ไม่ยอมให้ปลดปล่อย
แขนทั้งสองข้างที่จะส่งไปช่วยตัวเองก็ถูกรวบกดไว้เหนือหัว
รู้สึกปวดหนึบไปทั้งร่างแต่เขาก็ไม่ยอมเห็นใจกันสักที
“รอก่อนสิเด็กดี”
จูบปลอบใจถูกป้อนลงมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากก้านนิ้วเย็นๆที่สอดแทรกเข้ามาภายในช่องทางด้านหลัง
ผมสะดุ้งสุดตัว เบี่ยงหน้าหนีจูบของเขาเพื่อเผยอปากหายใจ
ร่างกายบีบรัดสิ่งแปลกปลอมถี่จนเขาต้องคอยกระซิบข้างหูให้ค่อยๆหายใจลึก
ความรู้สึกอึดอัดในทีแรกเริ่มหายไปเมื่อคุณชานเลี่ยค่อยๆสอดนิ้วเข้าออกสร้างความคุ้นชินหลังจากที่ห่างหายกันไปนานอย่างใจเย็นจนกระทั่งร่างกายของผมสามารถเปิดรับก้านนิ้วทั้งสามของเขาไว้ได้จนหมด
“อ...อา”
ร้องครางเสียงแผ่วเมื่อนิ้วทั้งสามถูกถอนออกไป ผมนอนหมดสภาพอยู่บนเตียง
ไม่มีแม้แต่แรงที่จะขยับเขยื้อนไปไหนด้วยอารมณ์คั่งค้างที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย
คุณชานเลี่ยเอื้อมตัวไปเปิดลิ้นชักข้างหัวเตียงก่อนจะหยิบบางอย่างขึ้นมามองอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หันกลับมาสบตากับผม
“อยากให้ใช้มันไหม”
“...”
ผมมองซองในมือของเขาพลางกัดริมฝีปากแน่น
รู้ความหมายดีว่าทำไมเขาถึงถามขึ้นมาทั้งที่ปกติก็เอาแต่เดินหน้ากอดฟัดจนหนำใจ
เพราะเขากลัว...และผมก็กลัว
กลัวว่าจะสร้างอีกชีวิตหนึ่งขึ้นมาแล้วปกป้องเขาไว้ไม่ได้อีก
ผมค่อยๆเอื้อมมือสั่นๆไปดึงซองถุงยางอนามัยออกจากมือของเขา
แวบหนึ่งที่เห็นแววตาคมกริบสลดลงไปแต่เพียงครู่เดียวก็กลับมาดังเดิม
เหมือนเขาตั้งใจที่จะยอมรับการตัดสินใจของผมแม้ว่าตัวเองจะยังรู้สึกเสียดาย
ออกแรงดันคนตัวโตให้พลิกกลับไปเป็นฝ่ายนอนลงบนเตียงแล้วพยุงร่างกายอ่อนปวกเปียกของตัวเองนั่งทับช่วงเอวของเขาเอาไว้
เลียริมฝีปากของตัวเองด้วยความประหม่าอายที่ทำใจกล้าขึ้นมานั่งทับความร้อนรุ่มยั่วอารมณ์ของเขาขนาดนี้
ผมกำซองสี่เหลี่ยมในมือไว้แน่นก่อนจะโน้มกายลงประกบปากกับคนที่ยังมึนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของผม
แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นคุณชานเลี่ยก็เริ่มปล่อยตัวไปตามเกมส์เด็กๆ
ฝ่ามือหนายกขึ้นมาประคองสะโพกพลางบีบเค้นให้มันถูไถไปกับแกนกายใหญ่โต
ส่วนริมฝีปากก็ตอบรับจูบจนกลายเป็นผมเองที่ต้องทุบอกให้เขายอมเบาจังหวะลง
ได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะในลำคอยามที่ผมขบกัดลาดไหล่ของเขาจนขึ้นรอยแดงเป็นปื้น
แววตาของเขาดูชอบใจกับการกระทำนี้ไม่หยอก เล่นเอาผมหน้าแดงวาบยามที่เผลอช้อนตาขึ้นมาสบกับคนที่นอนมองอยู่ก่อนแล้ว
หลับหูหลับตาเลียนแบบการจูบของเขาไล่ไปถึงลอนกล้ามแข็งแรงตรงหน้าท้อง
เผลอใช้ปลายนิ้วลูบไล้อย่างชอบใจแล้วก็ต้องหลุดยิ้มเมื่อคนใต้ร่างหดเกร็งหน้าท้องเบาๆด้วยความเสียวซ่าน
“ใครสอนให้ทำตัวแบบนี้”
“ฝีมือเฮียชานเลี่ยทั้งนั้นเลยครับ”
ผมบ่นอุบอิบหลุบตาหนีแล้วค่อยๆถดตัวไปนั่งทับหน้าขา
“เดี๋ยวเถอะ...แบคฮยอนจะทำอะไร”
“ผม...ทำให้นะ”
ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปากห้าม
ลำกายใหญ่โตก็ถูกปลายลิ้นเล็กไล้เลียเหมือนลูกแมวที่กำลังดื่มนม
ผมทำมันอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เอาใจเขาขนาดนี้
“ไม่ต้องกลัว
ระวังฟันด้วยนะแบค...อ่า”
โพรงปากเปิดรับความรุ่มร้อนเข้าไปปรนเปรอพร้อมกับสองมือที่ช่วยรูดรั้งในส่วนที่ไม่สามารถเอาใจได้ด้วยปากโดยไม่รีรอให้เขาพูดจบ
เสียงซวบซาบน่าอายดังขึ้นพร้อมกับพวงแก้มกลมทั้งสองข้างที่เจือสีแดงเข้ม ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ในสายตาของปาร์ค
ชานเลี่ยตั้งแต่ต้น
จนกระทั่งเสียงทุ้มครางออกมาเบาๆให้ได้ยิน
ทำให้ผมยิ่งได้ใจเร่งเร้าเพิ่มจังหวะปรนเปรอจนคุณชานเลี่ยดันตัวขึ้นมาคว้าต้นคอของผมไปกดจูบแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว
“คืนนี้ตายแน่ๆแบคฮยอน”
ผมเม้มปากแน่นแล้วดันไหล่เขาให้นอนราบลงไปอีกครั้ง
ความขลาดเขินยังมีอยู่เต็มอกหากแต่อารมณ์วาบหวามภายในผลักดันให้ผมกระทำบางสิ่งออกมาอย่างลืมอาย
ปลายซองสี่เหลี่ยมถูกฉีกออกด้วยเขี้ยวเล็กๆและแรงดึง
ถุงยางอนามัยหล่นปุลงบนลอนหน้าท้อง
แน่นอนว่าคุณชานเลี่ยมองตามทุกการกระทำด้วยความนิ่งเงียบ
ผมหยิบมันขึ้นมาแล้วสวมลงบนแกนกายรุ่มร้อนของเขา
“อะ...อือ”
ขยับกายขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกดลงบนความแข็งเกร็งที่พร้อมใช้งาน น้ำตารื้นขึ้นมาเมื่อถูกความเจ็บแปลบโจมตีช่องทางด้านหลัง
คุณชานเลี่ยคอยบีบนวดสะโพกให้ผ่อนคลายกว่าเดิมจนกระทั่งผมสามารถรองรับความต้องการของเขาได้จนหมด
“ซ่าตั้งแต่ยกแรกแบบนี้ยกต่อไปเดี๋ยวจะซ่าไม่ออกนะคุณนายปาร์ค”
“อ้ะ...ผมไม่...
เฮียอย่าเพิ่งขยับสิครับ...อื้อ”
คุณชานเลี่ยไม่ใช่คนใจดี
แม้กระทั่งในเวลานี้ที่ผมร้องขอให้เขาช่วยเบาจังหวะลงก็ยังไม่ยอมฟัง คนตัวโตจับสะโพกไว้จนเต็มมือแล้วกระทุ้งกายเข้าใส่
แม้ว่ามันจะไม่ได้รุนแรงสร้างบาดแผลอะไรให้กับร่างกายของผม แต่เขาไม่รู้เลยหรือไงว่าแบบนี้มันปั่นป่วนความรู้สึกจนแทบบ้า
“อ๊ะ...อะ”
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเข้าสู่โสตประสาท ผมรับรู้เพียงแค่ความต้องการของเขาที่คอยกดย้ำเข้ามาจนต้องเผยอปากครางแบบควบคุมไม่ได้
ความคิดถึง
ความโหยหา ความรัก ความรู้สึกถูกเติมเต็มด้วยภาษากายจนล้นหัวใจ
นอกเหนือไปกว่านั้นยังได้ยินคำบอกรักซ้ำๆข้างหูยามที่ผมหมดเรี่ยวแรงจะส่งตัวบนร่างกายของเขาจนต้องเอนลงซอนซบกับแผงอกกว้าง
คุณชานเลี่ยพลิกตัวให้ผมเป็นฝ่ายนอนราบไปกับเตียงก่อนจะสอดใส่ความรุ่มร้อนเข้ามาใหม่อีกครั้ง
กระแทกกระทั้นจนเส้นผมกระจายยุ่งเหยิงไปทั่วหมอน
ช่องทางด้านหลังตอดรัดความแข็งแกร่งเป็นจังหวะพร้อมกับสะโพกที่แอ่นรับแรงกระแทกของเขา
“อือ...เฮียเลี่ย”
ผมกอดรอบคอของเขาไว้แน่นเมื่อจังหวะถูกเร่งรัวเร็วขึ้นอีกครั้ง
ส่วนปลายแกนกายที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยเริ่มปวดหนึบจนแทบทนไม่ไหว
“เรียกชานเลี่ยได้ไหม”
“...ชาน
อึก...ชานเลี่ย เบาๆ” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุให้เขาทำ
ยิ่งบอกให้เบาๆคุณชานเลี่ยก็ยิ่งสวนสะโพกเข้ามาจนร่างกายสั่นคลอน
ผมหลับตาปี๋เมื่อความซ่านเสียวถูกป้อนให้อย่างต่อเนื่อง
ริมฝีปากเริ่มบวมแดงจากแรงกัดแต่แล้วก็ต้องผละออกเมื่อคนเอาแต่ใจสังเกตเห็นแล้วโน้มตัวกดจูบลงมาโดยที่ร่างกายส่วนล่างยังไม่หยุดขยับ
ปลายเท้าจิกเกร็งกับผืนเตียงจนแทบชา ท้องทะเลที่เงียบสงบเมื่อตอนแรกแปรเปลี่ยนเหมือนพายุที่โหมกระหน่ำ
และผมเป็นเพียงต้นไม้อ่อนแรงต้นหนึ่งที่พร้อมจะปลิวไปกับพายุลูกใหญ่ด้วยความเต็มใจ
“ด เดี๋ยวครับ...ถอยก่อน”
และในจังหวะที่เขากระแทกกระทั้นเข้ามาจนผมสามารถรับรู้ได้ว่าภูเขาไฟใต้ทะเลลูกใหญ่กำลังจะปะทุในไม่ช้า
สติที่ยังพอหลงเหลืออยู่ก็ผลักดันให้เอ่ยปากร้องขอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“จะเล่นอะไรอีก
เฮียไม่ไหวแล้วนะแบคฮยอน”
“อะ...อื้อ
ถอย”
ละมือออกจากต้นคอแกร่งไปดันหน้าท้องให้เขาถอยออก
ในทีแรกคุณชานเลี่ยก็ไม่ยอมฟัง
เอาแต่สอดใส่เข้ามาแกล้งกันให้ร้องเสียงหลงอยู่ใต้ร่างกายของเขาจนผมต้องช้อนตามองออดอ้อนเขาให้ใจอ่อน
มือสั่นๆถูกส่งไปแตะลงบนท่อนเนื้อร้อนที่ถูกครอบคลุมด้วยถุงยางอนามัย
ปลายนิ้วสะกิดขอบยางแล้วดึงมันโยนทิ้งไปที่ไหนสักที่บนพื้นข้างเตียงเรียกสายตาชวนสงสัยจากคุณชายสองได้เป็นอย่างดี
“ทำไม”
“...”
“นี่แกล้งกันเหรอ”
เขาคร่อมตัวลงมาเท้าแขนลงกับเตียง ส่งสายตากดดันมาให้ผม
คิ้วเข้มขมวดแน่นจนน่าเอ็นดู
ไม่อยากจะบอกเขาออกไปเลยว่า...
“ครับ...ฮ
เฮียเลี่ย อื้อ!”
“นางฟ้าตัวน้อยของเราต้องดีใจแน่ๆที่น้องกำลังจะได้มาอยู่กับป๊าม๊าแล้ว”
“ช้าๆ...ผมหายใจไม่ทัน
อะ...อ๊า”
มีต่ออีกนิดนึงนะคะ กลับไปอ่านที่เด็กดีเลย -> CLICK
No comments:
Post a Comment