Sunday, 14 February 2016

[CUT SCENE] C's BRIDE - XXIX














            “ห..หยุดก่อนครับ ผมยังนวดไม่เสร็จ อื้อ...” ทั้งเสียงทั้งมือไม้สั่นไหวไม่ต่างจากก้อนกำปั้นในอกเมื่อขาอ่อนทั้งสองข้างถูกรุกรานด้วยฝ่ามือหยาบ 

            พยายามยกมือดันหลังเขาออกแต่เหมือนกับว่ามันเป็นการเรียกร้องให้เขาหันกลับมาสนใจกันเสียมากกว่า คุณชานเลี่ยเอี้ยวตัวกลับมากดจูบลงบนริมฝีปากของผมแบบไม่ปล่อยโอกาสให้ตั้งตัว ฝ่ามือยังคงไล่บีบเค้นขาอ่อนเลยไปจนถึงสะโพก

            เขาปั่นป่วนความรู้สึกกันด้วยจูบร้อนๆที่ไร้ซึ่งความดุดัน มีแต่ความอ่อนหวานที่น่าลุ่มหลงให้ยอมโอนอ่อนตามเขาไป แต่ผมรู้...ว่าภายใต้ความเงียบสงบแสนหวานนี้มีพายุลูกใหญ่ที่พร้อมจะโหมกระหน่ำในค่ำคืนนี้

            เขาผละริมฝีปากออกไปแล้วหมุนตัวกลับไปนั่งพิงขอบอ่างอีกฝั่งตามเดิม ทั้งเนื้อทั้งตัวร้อนวูบวาบไปหมดเมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังอยู่ในท่าทางที่เปิดโอกาสให้เขาสำรวจร่างกายเปลือยเปล่าได้ตามใจชอบ ยังไม่ทันที่ผมจะได้ขยับขาเข้ามาปกปิดร่างกายไว้เช่นเดิมก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ คุณชานเลี่ยดึงรั้งข้อเท้าทั้งสองข้างไว้แล้วกดฝ่าเท้าให้แนบลงบนอกด้านซ้ายของเขา

            “ให้แบคฮยอนหมดแล้วนะ ทั้งตัวแล้วก็ตรงนี้” เขาวางฝ่ามือทับบนหลังเท้าแล้วกดยิ้มให้ผม เป็นวินาทีที่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ที่มีแต่ความตื้นตันใจ ความรัก และปาร์ค ชานเลี่ย

            “ฮ เฮียเลี่ยปล่อยก่อนนะครับ มันไม่ดี” 

            “มันดีที่สุดแล้วที่เฮียได้รักแบคฮยอน” จู่ๆขอบตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อเขาก้มหน้าลงกดจูบลงบนปลายนิ้วโป้งเท้าทั้งสองข้าง “รักจริงๆนะคนนี้น่ะ”

            ผมค่อยๆชักฝ่าเท้าทั้งสองข้างออกแล้วโผตัวเข้าไปหา นั่งคุกเข่ายกสองแขนคล้องคอคนตรงหน้าไว้ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผาก ไล่ลงมาที่จมูกโด่งแสนซุกซน และจบลงที่ริมฝีปากร้ายกาจ

            “ผมก็รักเฮีย อะ...” 

            และในตอนนี้กลายเป็นผมที่ถูกจับให้นั่งหันหลังพิงอกของเขาเสียแทน ความร้อนรุ่มที่ดุนดันสะโพกอยู่ใต้น้ำยิ่งขับให้ข้างแก้มแดงเรื่อจนคนตัวโตกว่าต้องโน้มใบหน้าเข้ามาหอมเข้ามาฟัด

            “ไม่ต้องอาบน้ำแล้วมั้ง” เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหูก่อนจะงับเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว 

            ขาทั้งสองข้างตั้งชันขึ้นอย่างน่าอายด้วยฝ่ามือใหญ่ที่เป็นฝ่ายจัดแจงท่าทางให้สะดวกต่อการรังแก ผิวต้นคอขาวแทบจะแดงเป็นปื้นเพราะไรหนวดตรงปลายคางถูไถไปมา เสียงจูบและดูดดึงผิวเนื้อดังขึ้นข้างหูทำให้ผมหลับตาแน่นกลบความเขินอาย เผลอร้องครางเบาๆยามที่เขาแต่งแต้มร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของไว้ที่ลาดไหล่

            ฝ่ามือหนาข้างที่ใช้รวบเอวลูบไล้ขึ้นมาแตะยอดอก ใช้ปลายนิ้วบีบคลึงจนร่างกายกระตุกเมื่ออารมณ์ทะลึ่งกำลังถูกปลุกขึ้น ในขณะที่มืออีกข้างที่ว่างก็ไล้ต่ำลงไปตรงกลางลำตัว ขยับเข้ากอบกุมชักนำไปอย่างช้าๆ

            “อ...อื้อ” 

            ผมบีบนิ้วลงบนท่อนแขนของเขาเพื่อระบายอารมณ์วาบหวาม เงยหน้าพิงศีรษะลงกับไหล่หนาพลางเผยอปากหอบหายใจเมื่อเขาเร่งจังหวะเร็วขึ้นทั้งสองมือ ยิ่งถูกเร่งเร้ามากขึ้นเท่าไหร่เสียงครางและเสียงหอบก็ถี่กระชั้นมากขึ้นเท่านั้น

            จังหวะหนึ่งที่ผมเกือบสำลักอากาศเมื่อเขาป้อนจูบลงมาทั้งๆที่มือสองข้างก็ยังรังแกกันไม่เลิก ทั้งกลีบปากและพวงแก้มแดงเรื่อดึงดูดสายตาของคนเอาแต่ใจเอาไว้จนต้องไล้แตะปลายจมูกกับริมฝีปากวนไปเวียนมาไม่ห่าง

            “อ๊ะ อา...” 

            “ไม่ได้ช่วยตัวเองเลยเหรอหืม” 

             ผมหลับตาเอียงหน้าซบไปกับไหล่ซ้ายของเขาเมื่อโดนกดจูบที่ปลายคางพร้อมคำกระซิบบอกว่าคนเก่ง  ความต้องการถูกปลดปล่อยออกไปผ่านการชักนำที่แสนร้ายกาจของคุณชายสองจนแทบหมดเรี่ยวแรง

            “...ใครจะไปทะลึ่งแบบเฮีย” เถียงเสียงแผ่วในขณะที่ร่างทั้งร่างถูกช้อนขึ้นจากอ่างอาบน้ำ ร่างกายเปลือยเปล่าถูกห่มทับด้วยผ้าเช็ดตัวผืนนุ่ม จะมีก็แต่คนลามกคนนั้นที่เดินโป๊ออกจากห้องน้ำพาตัวผมขึ้นเตียง

            ผมรีบม้วนตัวเข้าหาผ้าห่มอีกชั้นหนึ่งเพราะอุณหภูมิภายในห้องนอนค่อนข้างเย็นกว่าในห้องน้ำ อีกนัยหนึ่งก็เพราะต้องการหลบสายตาคนโป๊ที่ยืนท้าฟ้าท้าดินอยู่ปลายเตียงนั่นแหละ

            “ไม่รอดแล้วรู้ตัวใช่ไหม”

            “...”

            “หลังจากนี้ถึงจะร้องไห้งอแงเฮียก็ไม่หยุดให้เรานะ” 

            ผ้าห่มที่ใช้คลุมหัวถูกดึงออกดด้วยฝีมือของคนที่กดกายทาบทับลงมา ร่างกายของผมกับเขามีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกั้นเอาไว้ แก้มทั้งสองข้างถูกกอบกุมช้อนให้ขึ้นมาสบนัยน์ตาดุแบบเลี่ยงไม่ได้

            “จ จะไม่เห็นใจกันหน่อยเหรอครับ”

            “ถ้าแบคฮยอนไม่ชอบก็คงปฏิเสธเฮียไปตั้งแต่เริ่มแล้ว”

            ดูเขาพูดเข้าสิ!
 
            “งั้นผมไม่...”

            “ก็บอกแล้วไงว่าไม่รอด” รอยยิ้มร้ายกาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงเพื่อรองรับจูบของจริงที่ไม่ได้อ้อยอิ่งเหมือนในห้องน้ำ 

            คุณชานเลี่ยดูดคลึงกลีบปากอยู่ครู่เดียวก็สอดแทรกปลายลิ้นเข้ามาปั่นป่วนภายในโพรงปาก กวาดต้อนไล้เล็มเก็บน้ำหวานจนผมจิกนิ้วลงบนหลังคอ ร่างกายที่ถูกเตรียมพร้อมไปแล้วครั้งหนึ่งถูกจุดติดได้ง่ายกว่าเดิมเพียงแค่เขาเค้นคลึงผิวกาย

            ฝ่ามือใหญ่ปัดป่ายผ่านยอดอกไล้ลงไปบีบเค้นช่วงเอวก่อนที่ริมฝีปากร้อนรุ่มจะกดสัมผัสลงมาครอบครองดูดดึงจนเกิดเสียงน่าอาย 

            “อื้อ...เบาๆ” 

            “เจ็บเหรอ”

            “ผมแค่ยัง...ไม่ชิน อ้ะ...”

            “เดี๋ยวจะทำให้ชินเอง” 

             เขาก้มลงไปยุ่มย่ามกับยอดอกทั้งสองข้างอีกครั้งโดยที่ยอมใจดีเบาแรงดูดคลึงลงเพียงเล็กน้อย ผมเผยอริมฝีปากกอบโกยอากาศเข้าปอดอยู่ได้เพียงไม่นานนัก ร่างกายส่วนล่างก็ถูกรุกรานจนปลายเท้าจิกเกร็งลงกับผืนเตียง

            สองขาตั้งชันเปิดรับร่างกายใหญ่โตให้สอดแทรกเข้ามาบดเบียดโดยไม่รู้ตัว แกนกายใหญ่ที่ขยายขนาดเต็มที่ถูไถอยู่กับบั้นท้ายไปมาเหมือนจะยั่วอารมณ์กันให้ซ่านเสียวมากขึ้นไปอีก ท่อนแขนหนั่นเนื้อย้ายมาช้อนเข้าใต้ข้อพับขาพร้อมกับสัมผัสนุ่มหยุ่นจากริมฝีปากไล่กดจูบลงมาจนถึงหน้าท้อง ผมหอบหายใจถี่ เกร็งไปหมดทั้งร่างกายยามที่เขาสอดปลายลิ้นเข้ามาไล้วนรอบสะดือ

            รสสัมผัสครั้งนี้เร้าอารมณ์ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ อาจเพราะความห่างกับเรื่องบนเตียงถึงสามสี่เดือนยิ่งทำให้เราอยากเติมเต็มให้กันและกันมากกว่าที่เคย หรืออาจเพราะไรหนวดร้ายกาจที่ถูไถไปทั่วทุกตารางนิ้วที่เขาลากริมฝีปากพาดผ่าน ส่วนกลางลำตัวถูกเขาครอบครองปลุกปั่นด้วยโพรงปากอีกครั้ง เพียงแค่รูดรั้งและละเลงปลายลิ้นลงที่ส่วนปลายผมก็แทบจะปลดปล่อยครั้งที่สองอยู่รอมร่อ

            “อะ...อย่าแกล้งผม” ร้องท้วงขึ้นอย่างลืมอายเมื่อสัมผัสร้อนรุ่มละออกไปในจังหวะที่อารมณ์เกือบจะแตะถึงขีดสุด

            “เดี๋ยวจะแกล้งให้ร้องเลย” 

            “ปล่อย...ฮื่อ” 

             ผมช้อนตามองคนด้านบนตาปรอย น้ำสีใสเคลือบไปทั่วขอบตาเมื่ออารมณ์วาบหวามถูกเบรกไว้ไม่ยอมให้ปลดปล่อย แขนทั้งสองข้างที่จะส่งไปช่วยตัวเองก็ถูกรวบกดไว้เหนือหัว รู้สึกปวดหนึบไปทั้งร่างแต่เขาก็ไม่ยอมเห็นใจกันสักที 

            “รอก่อนสิเด็กดี” 

            จูบปลอบใจถูกป้อนลงมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากก้านนิ้วเย็นๆที่สอดแทรกเข้ามาภายในช่องทางด้านหลัง ผมสะดุ้งสุดตัว เบี่ยงหน้าหนีจูบของเขาเพื่อเผยอปากหายใจ ร่างกายบีบรัดสิ่งแปลกปลอมถี่จนเขาต้องคอยกระซิบข้างหูให้ค่อยๆหายใจลึก

            ความรู้สึกอึดอัดในทีแรกเริ่มหายไปเมื่อคุณชานเลี่ยค่อยๆสอดนิ้วเข้าออกสร้างความคุ้นชินหลังจากที่ห่างหายกันไปนานอย่างใจเย็นจนกระทั่งร่างกายของผมสามารถเปิดรับก้านนิ้วทั้งสามของเขาไว้ได้จนหมด 

            “อ...อา” 

            ร้องครางเสียงแผ่วเมื่อนิ้วทั้งสามถูกถอนออกไป ผมนอนหมดสภาพอยู่บนเตียง ไม่มีแม้แต่แรงที่จะขยับเขยื้อนไปไหนด้วยอารมณ์คั่งค้างที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย คุณชานเลี่ยเอื้อมตัวไปเปิดลิ้นชักข้างหัวเตียงก่อนจะหยิบบางอย่างขึ้นมามองอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หันกลับมาสบตากับผม

            “อยากให้ใช้มันไหม”

            “...” ผมมองซองในมือของเขาพลางกัดริมฝีปากแน่น 

            รู้ความหมายดีว่าทำไมเขาถึงถามขึ้นมาทั้งที่ปกติก็เอาแต่เดินหน้ากอดฟัดจนหนำใจ เพราะเขากลัว...และผมก็กลัว

            กลัวว่าจะสร้างอีกชีวิตหนึ่งขึ้นมาแล้วปกป้องเขาไว้ไม่ได้อีก

            ผมค่อยๆเอื้อมมือสั่นๆไปดึงซองถุงยางอนามัยออกจากมือของเขา แวบหนึ่งที่เห็นแววตาคมกริบสลดลงไปแต่เพียงครู่เดียวก็กลับมาดังเดิม เหมือนเขาตั้งใจที่จะยอมรับการตัดสินใจของผมแม้ว่าตัวเองจะยังรู้สึกเสียดาย

            ออกแรงดันคนตัวโตให้พลิกกลับไปเป็นฝ่ายนอนลงบนเตียงแล้วพยุงร่างกายอ่อนปวกเปียกของตัวเองนั่งทับช่วงเอวของเขาเอาไว้ เลียริมฝีปากของตัวเองด้วยความประหม่าอายที่ทำใจกล้าขึ้นมานั่งทับความร้อนรุ่มยั่วอารมณ์ของเขาขนาดนี้ 

            ผมกำซองสี่เหลี่ยมในมือไว้แน่นก่อนจะโน้มกายลงประกบปากกับคนที่ยังมึนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของผม แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นคุณชานเลี่ยก็เริ่มปล่อยตัวไปตามเกมส์เด็กๆ ฝ่ามือหนายกขึ้นมาประคองสะโพกพลางบีบเค้นให้มันถูไถไปกับแกนกายใหญ่โต ส่วนริมฝีปากก็ตอบรับจูบจนกลายเป็นผมเองที่ต้องทุบอกให้เขายอมเบาจังหวะลง

            ได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะในลำคอยามที่ผมขบกัดลาดไหล่ของเขาจนขึ้นรอยแดงเป็นปื้น แววตาของเขาดูชอบใจกับการกระทำนี้ไม่หยอก เล่นเอาผมหน้าแดงวาบยามที่เผลอช้อนตาขึ้นมาสบกับคนที่นอนมองอยู่ก่อนแล้ว 

            หลับหูหลับตาเลียนแบบการจูบของเขาไล่ไปถึงลอนกล้ามแข็งแรงตรงหน้าท้อง เผลอใช้ปลายนิ้วลูบไล้อย่างชอบใจแล้วก็ต้องหลุดยิ้มเมื่อคนใต้ร่างหดเกร็งหน้าท้องเบาๆด้วยความเสียวซ่าน

            “ใครสอนให้ทำตัวแบบนี้”

            “ฝีมือเฮียชานเลี่ยทั้งนั้นเลยครับ” ผมบ่นอุบอิบหลุบตาหนีแล้วค่อยๆถดตัวไปนั่งทับหน้าขา
            “เดี๋ยวเถอะ...แบคฮยอนจะทำอะไร”

            “ผม...ทำให้นะ” ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปากห้าม ลำกายใหญ่โตก็ถูกปลายลิ้นเล็กไล้เลียเหมือนลูกแมวที่กำลังดื่มนม ผมทำมันอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เอาใจเขาขนาดนี้ 

            “ไม่ต้องกลัว ระวังฟันด้วยนะแบค...อ่า”

            โพรงปากเปิดรับความรุ่มร้อนเข้าไปปรนเปรอพร้อมกับสองมือที่ช่วยรูดรั้งในส่วนที่ไม่สามารถเอาใจได้ด้วยปากโดยไม่รีรอให้เขาพูดจบ เสียงซวบซาบน่าอายดังขึ้นพร้อมกับพวงแก้มกลมทั้งสองข้างที่เจือสีแดงเข้ม ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ในสายตาของปาร์ค ชานเลี่ยตั้งแต่ต้น 

            จนกระทั่งเสียงทุ้มครางออกมาเบาๆให้ได้ยิน ทำให้ผมยิ่งได้ใจเร่งเร้าเพิ่มจังหวะปรนเปรอจนคุณชานเลี่ยดันตัวขึ้นมาคว้าต้นคอของผมไปกดจูบแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว

            “คืนนี้ตายแน่ๆแบคฮยอน” 

            ผมเม้มปากแน่นแล้วดันไหล่เขาให้นอนราบลงไปอีกครั้ง ความขลาดเขินยังมีอยู่เต็มอกหากแต่อารมณ์วาบหวามภายในผลักดันให้ผมกระทำบางสิ่งออกมาอย่างลืมอาย

            ปลายซองสี่เหลี่ยมถูกฉีกออกด้วยเขี้ยวเล็กๆและแรงดึง ถุงยางอนามัยหล่นปุลงบนลอนหน้าท้อง แน่นอนว่าคุณชานเลี่ยมองตามทุกการกระทำด้วยความนิ่งเงียบ ผมหยิบมันขึ้นมาแล้วสวมลงบนแกนกายรุ่มร้อนของเขา

            “อะ...อือ” 

            ขยับกายขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกดลงบนความแข็งเกร็งที่พร้อมใช้งาน น้ำตารื้นขึ้นมาเมื่อถูกความเจ็บแปลบโจมตีช่องทางด้านหลัง คุณชานเลี่ยคอยบีบนวดสะโพกให้ผ่อนคลายกว่าเดิมจนกระทั่งผมสามารถรองรับความต้องการของเขาได้จนหมด

            “ซ่าตั้งแต่ยกแรกแบบนี้ยกต่อไปเดี๋ยวจะซ่าไม่ออกนะคุณนายปาร์ค”

            “อ้ะ...ผมไม่... เฮียอย่าเพิ่งขยับสิครับ...อื้อ” 

            คุณชานเลี่ยไม่ใช่คนใจดี แม้กระทั่งในเวลานี้ที่ผมร้องขอให้เขาช่วยเบาจังหวะลงก็ยังไม่ยอมฟัง คนตัวโตจับสะโพกไว้จนเต็มมือแล้วกระทุ้งกายเข้าใส่ แม้ว่ามันจะไม่ได้รุนแรงสร้างบาดแผลอะไรให้กับร่างกายของผม แต่เขาไม่รู้เลยหรือไงว่าแบบนี้มันปั่นป่วนความรู้สึกจนแทบบ้า

            “อ๊ะ...อะ” เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเข้าสู่โสตประสาท ผมรับรู้เพียงแค่ความต้องการของเขาที่คอยกดย้ำเข้ามาจนต้องเผยอปากครางแบบควบคุมไม่ได้ 

            ความคิดถึง ความโหยหา ความรัก ความรู้สึกถูกเติมเต็มด้วยภาษากายจนล้นหัวใจ นอกเหนือไปกว่านั้นยังได้ยินคำบอกรักซ้ำๆข้างหูยามที่ผมหมดเรี่ยวแรงจะส่งตัวบนร่างกายของเขาจนต้องเอนลงซอนซบกับแผงอกกว้าง

            คุณชานเลี่ยพลิกตัวให้ผมเป็นฝ่ายนอนราบไปกับเตียงก่อนจะสอดใส่ความรุ่มร้อนเข้ามาใหม่อีกครั้ง กระแทกกระทั้นจนเส้นผมกระจายยุ่งเหยิงไปทั่วหมอน ช่องทางด้านหลังตอดรัดความแข็งแกร่งเป็นจังหวะพร้อมกับสะโพกที่แอ่นรับแรงกระแทกของเขา

            “อือ...เฮียเลี่ย” ผมกอดรอบคอของเขาไว้แน่นเมื่อจังหวะถูกเร่งรัวเร็วขึ้นอีกครั้ง ส่วนปลายแกนกายที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยเริ่มปวดหนึบจนแทบทนไม่ไหว

            “เรียกชานเลี่ยได้ไหม”

            “...ชาน อึก...ชานเลี่ย เบาๆ” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุให้เขาทำ ยิ่งบอกให้เบาๆคุณชานเลี่ยก็ยิ่งสวนสะโพกเข้ามาจนร่างกายสั่นคลอน 

            ผมหลับตาปี๋เมื่อความซ่านเสียวถูกป้อนให้อย่างต่อเนื่อง ริมฝีปากเริ่มบวมแดงจากแรงกัดแต่แล้วก็ต้องผละออกเมื่อคนเอาแต่ใจสังเกตเห็นแล้วโน้มตัวกดจูบลงมาโดยที่ร่างกายส่วนล่างยังไม่หยุดขยับ ปลายเท้าจิกเกร็งกับผืนเตียงจนแทบชา ท้องทะเลที่เงียบสงบเมื่อตอนแรกแปรเปลี่ยนเหมือนพายุที่โหมกระหน่ำ และผมเป็นเพียงต้นไม้อ่อนแรงต้นหนึ่งที่พร้อมจะปลิวไปกับพายุลูกใหญ่ด้วยความเต็มใจ 



“ด เดี๋ยวครับ...ถอยก่อน” 

และในจังหวะที่เขากระแทกกระทั้นเข้ามาจนผมสามารถรับรู้ได้ว่าภูเขาไฟใต้ทะเลลูกใหญ่กำลังจะปะทุในไม่ช้า สติที่ยังพอหลงเหลืออยู่ก็ผลักดันให้เอ่ยปากร้องขอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

 
            “จะเล่นอะไรอีก เฮียไม่ไหวแล้วนะแบคฮยอน” 

            “อะ...อื้อ ถอย” 

            ละมือออกจากต้นคอแกร่งไปดันหน้าท้องให้เขาถอยออก ในทีแรกคุณชานเลี่ยก็ไม่ยอมฟัง เอาแต่สอดใส่เข้ามาแกล้งกันให้ร้องเสียงหลงอยู่ใต้ร่างกายของเขาจนผมต้องช้อนตามองออดอ้อนเขาให้ใจอ่อน

            มือสั่นๆถูกส่งไปแตะลงบนท่อนเนื้อร้อนที่ถูกครอบคลุมด้วยถุงยางอนามัย ปลายนิ้วสะกิดขอบยางแล้วดึงมันโยนทิ้งไปที่ไหนสักที่บนพื้นข้างเตียงเรียกสายตาชวนสงสัยจากคุณชายสองได้เป็นอย่างดี

            “ทำไม”

            “...”

            “นี่แกล้งกันเหรอ” เขาคร่อมตัวลงมาเท้าแขนลงกับเตียง ส่งสายตากดดันมาให้ผม คิ้วเข้มขมวดแน่นจนน่าเอ็นดู 


ไม่อยากจะบอกเขาออกไปเลยว่า...


            “ครับ...ฮ เฮียเลี่ย อื้อ!

            “นางฟ้าตัวน้อยของเราต้องดีใจแน่ๆที่น้องกำลังจะได้มาอยู่กับป๊าม๊าแล้ว”

            “ช้าๆ...ผมหายใจไม่ทัน อะ...อ๊า”

 
มีต่ออีกนิดนึงนะคะ กลับไปอ่านที่เด็กดีเลย -> CLICK

No comments:

Post a Comment