Tuesday, 1 December 2015

[CUT SCENE] C's BRIDE - XX










“อ่ะ...” 

ร่างทั้งร่างกระตุกเมื่อความอุ่นชื้นแตะลงบนยอดอกผ่านเสื้อเนื้อบาง ร่างกายถูกดันให้นอนราบลงไปกับโต๊ะทำงานตัวใหญที่ก่อนหน้านี้ผมจำได้ว่ามันมีแต่แฟ้มเอกสารวางซ้อนกันเต็มไปหมด หากแต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า...

ท่อนขาถูกอีกฝ่ายช้อนขึ้นและออกแรงดึงให้ตัวของผมเลื่อนขยับมาแนบติดหน้าขาของเขาอีกครั้งในขณะที่เจ้าของกลุ่มผมสีเทากำลังฟอนฟัดร่างกายท่อนบนทั้งที่ยังไม่ได้ถอดเสื้อ อารมณ์แปลกๆเกิดขึ้นหลังจากที่เขาทำเพียงแค่ลากปลายลิ้นเลียวนรอบๆพร้อมกับฝ่ามืออีกข้างที่ใช้ลูบไล้ไปทั่วร่างกาย

ผมจิกปลายนิ้วลงบนไหล่แน่น อารมณ์ที่เพิ่งถูกจุดขึ้นมาขับให้ยอดอกทั้งสองข้างนูนขึ้น และเพราะเสื้อบางๆตรงแผ่นอกที่เปียกชื้นเป็นวงเพราะถูกไล้เลียยิ่งทำให้เขาสามารถเห็นอะไรๆได้ชัดขึ้นจนเจ้าตัวกดยิ้ม

“พ...พอแล้ว ผมไม่เอา”


“แต่เฮียเอา 

คุณชานเลี่ยเลื่อนตัวขึ้นมาจูบปลายคางของผมเบาๆ สายตาของเขาอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกจนผมต้องหลับตาเบือนหน้าหนี พวงแก้มแดงเรื่อเพราะอุณหภูมิในร่างกายเริ่มสูงขึ้น ความปวดหนึบที่เกิดขึ้นกับช่วงล่างทำให้ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผมเองก็มีอารมณ์แล้วเหมือนกัน...


บ้าจริง


“แต่...ป ประตู อือ...” 

ผมเชิดหน้าขึ้นเมื่อเสื้อที่สวมอยู่ถึงถอดออก เส้นผมสีน้ำตาลทองกระจัดกระจายไปตามพื้นโต๊ะ ร่างกายแอ่นขึ้นอีกครั้งเมื่อต้องเผชิญกับสัมผัสจากเรียวลิ้นชื้นโดยตรงโดยไม่มีเสื้อผ้ากีดขวางอีกต่อไป เขาละเลงความซุกซนไปทั่วพร้อมกับแตะจูบไล่ลงมาที่สะดือ ผิวบอบบางตรงแอ่งกลางร่างกายถูกรังแกจนปวดมวนไปทั่วช่องท้อง “อ้ะ..”

สะโพกของผมถูกมือใหญ่จับยึดให้อยู่ติดกับโต๊ะเมื่อผมเริ่มบิดกายยุกยิกไปทั่วเพราะความเสียวซ่าน คุณชานเลี่ยกดจูบลงตรงร่องรอยเดิมที่เพิ่งจะจางแต่ยังไม่หายไปไหน เขากดริมฝีปากเน้นย้ำไปทั่วผิวกาย ให้ผมได้รับรู้


ไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็เป็นของเขา


“อื้อ...เฮีย” 

ผมยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเมื่อเสียงน่าอายหลุดรอดออกมาให้เขาได้ใจ ปลายลิ้นกับริมฝีปากของเขายังคงปลุกปั่นอารมณ์ของผมไปทั่ว ยิ่งมันขยับเข้าใกล้ความอึดอัดที่อยู่ภายใต้กางเกงมากเท่าไหร่ ร่างกายของผมก็ยิ่งกระตุกมากขึ้นเท่านั้น

“แบคฮยอน อย่าปิดปาก” เขาเงยหน้าขึ้นมาขมวดคิ้วใส่และจัดการดึงมือของผมให้ออกห่างจากปาก “ถอดเนกไทให้ที”

“ม ไม่”

“หรือจะถอดเข็มขัด?” 

ข้อเสนอที่ดูไม่ค่อยมีทางเลือกบังคับให้ผมส่งมือสั่นๆไปแตะเนกไทที่ผมเป็นคนผูกให้เขาเองเมื่อเช้า ค่อยๆรูดมือลงให้มันคลายออกก่อนจะได้รับจูบหวานๆที่มุมปากเมื่อเนกไทหลุดออกจากช่วงคอของบอสใหญ่ สายตาคมกริบจดจ้องทุกการกระทำจนความเขินอายตีรวนขึ้นมากระจุกอยู่บนใบหน้า ไหล่ของผมสั่นเล็กน้อยเพราะผิวกายท่อนบนเปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้ามาช่วยบดบังจากลมเย็นๆของเครื่องปรับอากาศ

“กลับ...ไปที่บ้านไม่ได้เหรอครับ” 

ผมเอียงคอหนีเมื่อเขากดจูบลงมาที่ข้างแก้มขวา ลมหายใจร้อนทอดถอนออกมากระทบใบหน้าให้รู้สึกร้อนรุ่มยิ่งกว่าฤดูร้อน คำร้องขอของผมถูกละเลยเพราะคุณชานเลี่ยเอาแต่ฟัดผิวของผมจนมันเริ่มแดงเพราะไรหนวด

ผมครางอือในลำคอเมื่อเนื้อสะโพกถูกบีบนวด ขาทั้งสองข้างพยายามหุบเข้าหากันเพื่อไม่ให้เขาสังเกตเห็นความลามกที่เกิดขึ้นกับร่างกายผม แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้ดั่งใจเพราะคุณชานเลี่ยเลื่อนตัวลงมาฟัดหน้าท้องของผมอีกครั้ง จุดอ่อนที่ทำให้ตัวอ่อนปวกเปียกไม่แพ้กับที่ต้นคอทำให้ผมแพ้เขาราบคาบ

เสียงซิปที่ถูกเลื่อนลงทำให้ผมแตะมือลงบนหลังมือของเขาทันที แต่ก็ถูกจับไปคล้องไว้กับต้นคอเสียแทน และในจังหวะที่เรียวลิ้นร้อนแตะลงบนแผ่นอกจนร่างกายแอ่นขึ้นเพราะความซ่านเสียว กางเกงขายาวและชั้นในก็ถูกถอดออกจากร่างกายไปพร้อมกันทั้งหมด

“ขนาดนี้แล้วกลับบ้านไม่ทันหรอก” ฝ่ามือใหญ่จับหัวเข่าของผมให้แยกออกกว้างแนบไปกับช่วงเอวของเขา บีบเค้นผิวขาวๆตรงโคนขาจนผมต้องหลับตาปี๋ด้วยความอายที่ต้องนอนทอดร่างกายให้เขามองทั้งที่ไฟในห้องทำงานสว่างจ้าขนาดนี้


ก็รอบที่แล้วมีเพียงแค่แสงไฟเลือนลางจากห้องน้ำเท่านั้นที่สาดส่องเข้ามาในห้องนอนมืดสนิท...


“อือ” ผมขบเม้มริมฝีปากของตัวเองแน่นเมื่อเขาเอาแต่ลากปลายลิ้นวนจูบอยู่ตรงต้นขาด้านใน เฉียดความอึดอัดทั้งหมดทั้งมวลของผมไปมาเหมือนแกล้งกัน แถมยังเงยหน้ามาส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้อีก


น่าอายจะแย่อยู่แล้ว!


อารมณ์ร้อนที่จุกเสียดไปหมดจนอยากจะปลดปล่อยเต็มทียิ่งทำให้สมองของผมไม่เหลือสติไว้คิดอะไรอีกแล้ว มือข้างหนึ่งร่วงหล่นจากต้นคอแกร่งของเขามาแปะอยู่ที่หน้าท้องตัวเองก่อนจะค่อยๆเอื้อมไปหมายจะจับแกนกายที่สั่นระริกนั่นแล้วชักนำให้ตัวเองไปถึงอีกฟากฝั่ง

“มือน่ะอยู่นิ่งๆ” คุณชานเลี่ยเอ่ยปรามเสียงเข้มพลางจับมือผมไว้ก่อนที่จะได้แตะต้องร่างกายของตัวเอง เขาจัดการรวบข้อมือของผมทั้งสองข้างด้วยมือใหญ่ๆเพียงข้างเดียวแล้วกดไว้เหนือหัว

ไม่เว้นจังหวะให้ผมร้องท้วง โพรงปากร้อนชื้นก็ครอบครองโอบอุ้มความต้องการของผมทั้งหมดเอาไว้ ทั้งรูดรั้ง ดูดดุนด้วยความเร็วที่ไต่ระดับตามความต้องการทำให้ผมหลุดครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้

“อ อ๊ะ..”


ได้แต่ภาวนาว่าเสียงจะไม่เล็ดรอดผ่านประตูห้องออกไป...


ขาทั้งสองข้างที่แนบอยู่กับช่วงเอวสอบสั่นระริกไปหมด ปลายเท้าจิกลงกับโต๊ะเนื้อเรียบเพื่อระบายอารมณ์วาบหวาม ฝ่ามือข้างที่ว่างก็ยังช่วยรูดรั้งส่วนโคน และปลายลิ้นซุกซนช่วยปรนเปรอที่ส่วนปลายจนแผ่นอกกระเพื่อมถี่เร็วเพราะแรงหอบหายใจ

เสียงสวบสาบจากการปรนเปรอช่วงล่างดังเคล้าไปกับเสียงครางจนผมอยากจะมุดหนีความเขินอายเข้าไปอยู่ในลิ้นชักเสียให้ได้ คุณชานเลี่ยเร่งจังหวะเร็วขึ้นเมื่อส่วนปลายแกนกายเริ่มปริ่มน้ำ สะโพกเผลอขยับรับตามแรงอารมณ์ที่เผลอไผล เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามร่างกายและใบหน้าจนเส้นผมแนบไปกับขมับและข้างแก้ม

คุณชานเลี่ยปล่อยข้อมือของผมให้เป็นอิสระเมื่อเขากลายเป็นคนคุมเกมส์ทั้งหมดบนโต๊ะตัวนี้ กลีบปากสีซีดผละขึ้นมาดูดดุนปากของผมอีกครั้งในขณะที่ปล่อยให้ฝ่ามือเป็นตัวชักนำร่างกายส่วนล่างจนกระทั่งของเหลวสีขุ่นถูกปลดปล่อยออกมาเปรอะหน้าท้องของผมและเสื้อเชิ้ตของเขา

“อ...ฮ เฮียเลี่ย ขอโทษ...ฮื่อ” ผมยกมือขึ้นปิดหน้าปิดตา รู้สึกอายจนไม่รู้จะพูดยังไง อายที่ยอมให้เขาทำเรื่องแบบนี้ในที่ที่ไม่ใช่ที่ส่วนตัว อายที่ปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมาจนเลอะเทอะชุดทำงานของเขาไปหมด “อ๊ะ”

ผมหลุดร้องออกมาเมื่อช่วงขาถูกจัดให้พาดลงไปกับลาดไหล่แกร่ง ปลายนิ้วเรียวกดวนอยู่รอบช่องทางด้านหลังจนร่างกายของผมกระตุกอีกครั้ง


“ร้องดังๆได้นะแบคฮยอน ห้องนี้เก็บเสียง” 


เขาพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะลงปลายลิ้นกับช่องทางอุ่นร้อนที่ขมิบถี่รัวเมื่อกำลังถูกรุกราน มันเป็นความรู้สึกแปลกปนเสียวซ่านจนไม่รู้จะระบายอารมณ์ยังไง ผมเลื่อนมือไปขยุ้มเส้นผมสีเทาของคุณชานเลี่ยเบาๆ อยากระบายความวาบหวามนี้ลงกับเขาแต่ก็กลัวเขาจะเจ็บตัว

ร่างกายเริ่มถดหนีเมื่อต่อต้านความเสียววูบและมวนท้องไม่ไหวแต่ติดตรงที่ฝ่ามือใหญ่กดเอวไว้ให้อยู่กับที่ เขาไล้เลียรอบช่องทางจนชุ่มก่อนจะสอดปลายลิ้นเข้ามาสร้างความปั่นป่วนในร่างกายของผมให้ร่างกายส่วนหน้าชูชันขึ้นอีกระลอก

“ไม่...ท ที่นี่ อ้ะ” 

ผมพยายามเอ่ยท้วงให้เขาเลิกกลั่นแกล้งกันด้วยวิธีนี้ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องไปหมด ความรู้สึกของผมเบาหวิวและล่องลอยอยู่ท่ามกลางมวลสีขาวก่อนที่สติทั้งหมดจะถูกเรียกกลับมาเมื่อก้านนิ้วยาวปาดความเลอะเทอะที่หน้าท้องมาช่วยอำนวยความสะดวกในการสอดแทรกเรียวนิ้วเข้าไปจนสุดความยาว “อะ...ฮ”

ผมแทบสำลักอากาศออกมาเมื่อเขากระทุ้งมือเข้าออกโดยไม่ให้ตั้งตัว แม้จะรู้สึกอึดอัดร่างกายไปหมดเพราะกำลังถูกกลั่นแกล้ง ด้านหน้ากำลังเกิดอารมณ์ขึ้นอีกครั้งและด้านหลังกำลังสะกิดความต้องการให้มากกว่าเดิม แต่ภายในหัวของผมกลับมีแต่หน้าของคุณชานเลี่ย


ผมต้องการเขา...


นิ้วที่สองและสามสอดแทรกตามเข้ามาติดๆ ปลายนิ้วยาวแตะโดนจุดรับสัมผัสด้านในจนผมครางอื้อในลำคอ คุณชานเลี่ยหมุนวนก้านนิ้วรุกรานตรงตำแหน่งเดิมเพื่อปลุกเร้าอารมณ์และร่างกายของผมให้พร้อมสำหรับเขา

สายตาของผมปรือมองกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาอยู่ครู่เดียว ผมจะโทษดินฟ้าอากาศหรือแม้แต่คุณชานเลี่ย ที่ทำให้ผมกล้าทำในสิ่งที่ทำให้รู้สึกขลาดเขินแทบแย่แต่สภาพจิตใจในเวลานี้กลับย้ำบอกให้ผมทำมัน ปลายนิ้วเรียวแตะลงที่กระดุมเม็ดที่สองเพราะเม็ดบนสุดถูกคุณชานเลี่ยปลดออกด้วยตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“อ๊ะ...” แรงส่งจากช่องทางด้านหลังทำให้ปลายนิ้วสั่นไหวแต่ในที่สุดกระดุมเม็ดที่สองก็หลุดออกจากรังดุม ตามด้วยเม็ดที่สามและสี่แต่ไม่ถึงเม็ดที่ห้า

“ไปหัดยั่วมาจากไหน” 

คุณชานเลี่ยกระทุ้งนิ้วทั้งสามแรงๆอีกสองสามครั้งโดยไม่ยอมละสายตาไปจากใบหน้าที่แดงซ่านของผม ผมแปะมือลงบนลอนกล้ามท้องที่โผล่พ้นเสื้อออกมาเล็กน้อยเพื่อวอนขอให้เขาลดจังหวะลงก่อนที่เขาจะถอนนิ้วทั้งหมดออกไป ช่องทางด้านหลังเต้นตุบๆเพราะส่วนที่เติมเต็มเมื่อครู่ขาดหายในขณะที่อารมณ์ยังเต็มตื้นอยู่ทุกอณูความรู้สึก

“ผ ผมเปล่า...อื้อ!” 

เผลอจิกนิ้วลงบนหน้าท้องของเขาเมื่อความแข็งแกร่งสอดใส่เข้ามาแทนที่จนคับล้นไปทั่วร่าง เข็มขัดราคาแพงและกางเกงสแล็คถูกถอดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าเขามักจะไวกับเรื่องแบบนี้เสมอ...จะดูเชี่ยวชาญเกินไปแล้ว

ผมกัดริมฝีปากจนแทบจะเป็นแผลเพราะความอึดอัดและปวดปร่าที่เกิดขึ้นกะทันหัน แม้ว่าจะได้รับการปรนเปรอและเบิกทางมาบางส่วนแล้ว...แต่มันไม่ใกล้เคียงกันเลยสักนิด


นิ้วกับตัวตนของคุณชานเลี่ยน่ะ...


“ขอโทษ เฮียไม่ไหวแล้ว” 

เขาจูบแก้มชื้นเหงื่อของผมเบาๆ ใช้สองมือคอยพยุงสะโพกของผมขึ้นเล็กน้อยเพื่อรองรับแรงกระแทกทั้งหมดจากเขา สะโพกสอบเริ่มขยับเข้าออกกดเน้นย้ำลงตรงจุดที่ทำให้รู้สึกเสียวซ่านจนต้องครางเสียงดังออกมาอย่างน่าอาย

“อ๊ะ...อ่า” 

ขาทั้งสองข้างที่พาดไหล่กว้างอยู่แทบจะไร้ความรู้สึกไปแล้ว ปลายนิ้วที่เคยจิกหน้าท้องของเขาเริ่มขยับเปลี่ยนมาเกาะชายเสื้อที่ข้างเอวสอบ ผมเชิดหน้าเผยอปากเพื่อกอบโกยอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะโดนคนขี้ขโมยก้มลงมาป้อนจูบ สอดแทรกลิ้นเข้ามาเกี่ยวประสานกันจนมุมปากเลอะไปหมด

โต๊ะทำงานที่เคยคิดว่ามันคงหนักน่าดูเพราะตัวใหญ่มากและทำจากไม้เนื้อดีเริ่มสั่นคลอน คุณชานเลี่ยเสยผมม้าของผมที่ชื้นไปด้วยเหงื่อจนมันลู่ตกลงมาปรกตาให้พ้นทางก่อนที่กลีบปากร้อนจะกดจูบข้างขมับตรงตำแหน่งที่มีไฝเล็กๆ เป็นที่ที่เขาชอบจูบก่อนเข้านอนและตอนตื่น ในทีแรกผมก็ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาชอบจูบขมับ บางครั้งผมรับรู้ได้เองเพราะยังไม่หลับ บางครั้งก็หลับลึกไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็มั่นใจว่าเขาจะต้องแอบจูบขมับก่อนนอนแน่ๆ


และสุดท้ายผมก็ยิ้มออกมาได้เพียงเพราะเขากระซิบบอกก่อนนอนเมื่อคืนก่อนว่าเขาชอบมัน


“เฮีย..ฮ อ้ะ เฮียเลี่ย” 

คำว่าเบาๆถูกกลืนลงคอเมื่อสะโพกสอบสวนกายเข้ามาจนสุดความยาวและค่อยๆลดความถี่เร็วลงหลังจากเร่งเครื่องมาสักพัก ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยเหงื่อ ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาตาปรอยก่อนจะใช้หลังมือซับเหงื่อที่ปลายคางออกให้เบาๆเรียกรอยยิ้มมุมปากบนใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายสองได้อย่างดี

“ปวดหลังไหม”

“..ม ไม่ครับ อื้อ”

“โกหก” 

ปากที่กำลังอ้าออกเพื่อจะปฏิเสธข้อกล่าวหาถึงกับร้องเสียงหลงออกมาเมื่อร่างกายถูกเขาช้อนอุ้มจนตัวลอยขึ้นมาจากโต๊ะโดยที่ไม่ได้ทอดถอนแกนกายออก สองแขนของผมโอบรอบคอของเขาไว้แน่นพลางเบียดแก้มลงกับซอกคอ

“อะ อ้ะ” 

ทุกจังหวะการลงส้นเท้าของเขาทำให้ต้องร้องครางออกมาเบาๆ คุณชานเลี่ยอุ้มผมเดินออกจากโต๊ะเพียงห้าก้าวเขาก็แกล้งออกแรงงส่งจากท่อนแขนที่ช้อนอยู่ตรงต้นขาเพื่อกระชับร่างกายผมให้แน่นขึ้น หากแต่มันส่งผลถึงช่วงล่างที่ยังเชื่อมกันอยู่จนทำให้เขาสามารถสอดใส่เขามาในตัวผมได้ลึกกว่าเดิมจนจุกไปทั่วท้องน้อย

คุณชานเลี่ยทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่เป็นฐานทัพประจำของผม แรงกระแทกจากการนั่งทำให้ผมทุบหลังเขาไปหนึ่งทีเป็นการประท้วง ขาทั้งสองข้างแบะออกข้างตัวในขณะที่สะโพกก็โดนฝ่ามือหนาจับกดลงไปบนความร้อนรุ่มที่พองคับแน่นจนอึดอัด

“ขึ้นให้เฮียหน่อย” 

ผมส่ายหัวไปมาจนเส้นผมคลอเคลียไปกับซอกคอของเขา แล้วก็ต้องร้องอื้อออกมาเพราะคนเอาแต่ใจกระแทกตัวเข้ามาเป็นการเร่งเร้า จากเมื่อกี๊ที่คิดว่ามันลึกที่สุดแล้ว หากแต่ท่านี้กลับทำให้เขาเข้ามาได้ลึกกว่าเดิมเสียอีก...ยิ่งความต้องการพุ่งขึ้นสูงเท่าไหร่ ร่างกายของผมก็สามารถเปิดรับตัวตนของเขาเข้ามามากขึ้นเท่านั้น

“ผม...ทำไม่เป็น อือ”

“เดี๋ยวช่วย” 

ผมมีโอกาสดื้อดึงกับเขาได้แค่สามวินาที ร่างกายที่นั่งทับอยู่บนหน้าตักก็ถูกประคองสะโพกให้หมุนวนสร้างความคุ้นชินให้กับช่องทางที่ต้องรองรับความรู้สึกของเขาเข้าไปทั้งหมด ฝ่ามือใหญ่ที่คอยช่วยบีบเค้นสะโพกเพื่อลดความเกร็งกับท่าทางและสถานที่ใหม่ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาจับช่วงเอวของผมให้ขยับขึ้นลงเบาๆ

เสียงครางหลุดออกมาแบบควบคุมไม่ได้ทุกครั้งที่ร่างกายสวนเข้าหากันในจังหวะเร็วขึ้น ผมจำต้องวางมือเกาะไหล่เขาเพื่อส่งร่างกายตัวเองให้รับกับแรงกระแทกด้านล่าง ละเลยความขลาดเขินเพื่อตอบสนองอารมณ์วาบหวามทั้งของตัวเองและของเขา เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าครางออกมาเบาๆอย่างพอใจยิ่งเร่งให้ผมกดสะโพกลงบนแกนกายของเขารัวเร็ว ท่าทีเก้ๆกังๆในทีแรกเริ่มหมดไปเมื่อผมจับจังหวะได้ว่าขยับแบบไหนที่จะทำให้เขารู้สึกดี

คุณชานเลี่ยขบกรามแน่นเมื่อช่องทางตอดรัดความใหญ่โตเป็นจังหวะได้อย่างดี กล้ามหน้าท้องและเนื้อผ้าของเสื้อเชิ้ตยิ่งสร้างความซ่านให้กับแกนกายของผมจนมันความอึดอัดแทบจะเดินมาถึงทางออก เสียงเนื้อกระทบเนื้อกับเสียงเบียดเสียดจากโซฟากลายเป็นสิ่งเร้าอารมณ์ที่ดีที่สุดในช่วงเวลาร้อนรุ่มแบบนี้ ร่างกายของคนสองคนสอดประสานเข้าหากันเป็นจังหวะรักที่ไม่รู้ว่าจะมีจุดสิ้นสุดเมื่อไหร่

แรงเสียดสีที่ส่วนหน้าเร็วขึ้นพอๆกับแรงสวนกายเข้ามาจากช่องทางด้านหลัง ผมกลั้นหายใจไปชั่วอึดใจหนึ่งเมื่อทนกับความเสียวซ่านไม่ไหวจนในท้ายที่สุดก็ปลดปล่อยความต้องการรอบสองออกมา


...รอบนี้เลอะเสื้อของเขาไปเต็มๆแบบไม่มีข้อแก้ตัว


“อ๊า...อ้ะ อ” จิกเล็บลงบนหลังคอของคุณชานเลี่ยแน่นเมื่อความต้องการด้านล่างยังสวนเข้ามาไม่หยุดหย่อน ผมหลับตาปี๋เมื่อโดนจับสะโพกให้หยุดนิ่งแล้วเขาก็เร่งจังหวะถี่รัวจนทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นคลอนอยู่บนตักแกร่ง


“ซ...อ่าห์” เสียงครางทุ้มเป็นเสียงสุดท้ายที่ดังขึ้นพร้อมกับความอุ่นร้อนที่พุ่งเข้ามาในช่องทางด้านหลัง เขาขยับกายอีกสองสามทีเพื่อรูดรั้งแรงอารมณ์ออกมาเก็บไว้ในร่างกายของผมจนหมด




มีต่ออีกนิดนึงนะคะ กลับไปอ่านที่เด็กดีเลย -> CLICK

No comments:

Post a Comment