Friday, 20 November 2015

[CUT SCENE] ShangHai Romance









“รักษาดีๆด้วยนะ เราให้เกอยืมใส่คืนเดียวท อื้อ” ริมฝีปากร้ายกาจกดสัมผัสลงมาครอบครองกลีบปากเล็กไว้จนหมด ดูดดึงความนุ่มหยุ่นจนเกิดเสียงทุกครั้งยามที่ผละริมฝีปากออกเพื่อเปลี่ยนองศาของใบหน้าให้แนบสนิทยิ่งขึ้น ปลายจมูกโด่งเป็นสันกดลงบนแก้มนุ่มทุกครั้งยามที่จูบถูกป้อนลงมา ลากไล้วนผิวแก้มไปทั่วยามที่เขาเริ่มเอาแต่ใจ


“เลิกเรียกเกอได้หรือยัง” เขาผละริมฝีปากออกเพื่อให้โอกาสคนใต้ร่างได้กอบโกยอากาศเข้าปอดหลังจากถูกจูบกะทันหัน


ชานยอลอายุมากกว่าแบคฮยอนหนึ่งปี เขาย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยที่เกาหลีเพียงเพราะอยากกลับไปใช้ชีวิตในบ้านเกิดของแม่ อยากอยู่ในสังคมที่สายเลือดครึ่งหนึ่งในร่างกายของเขาเป็นของที่นั่นสักครั้ง จนได้เจอกับตัวแสบคนนี้ที่ทำให้ชีวิตมหาวิทยาลัยของลูกมาเฟียต้องพบกับความยุ่งเหยิงแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน พวกเขาเรียนคณะเดียวกันและเรียนจบพร้อมกันเพราะคุณหนูพยอนดันเรียนเก่ง(ยกเว้นภาษาอังกฤษ)สอบพาสชั้นขึ้นมาได้


ถึงแม้ว่ามันจะดูน่ารักดียามที่แบคฮยอนเรียกเขาแบบนี้ แต่เขาไม่ได้อยากเป็นพี่ชาย แล้วก็ไม่ได้เป็นพี่ชายของกระต่ายเกาหลีนี่สักหน่อย


“จะเรียก! อะ...” สเวตเตอร์สีพีชถูกดึงออกจนหัวกลมๆกับเส้นผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิงไปหมด คงเหลือไว้เพียงแต่เสื้อแขนยาวสีขาวที่ใส่ทับอยู่ด้านใน


ชานยอลโน้มใบหน้าลงมาป้อนจูบให้คนปากดีอีกครั้ง เรียวลิ้นอุ่นชื้นสอดแทรกผ่านริมฝีปากแดงเจ่อเข้าไปสั่งสอนความรั้นที่ไม่จบสิ้นของแบคฮยอน  กวาดต้อนไล่ล่าลิ้นเล็กไปทั่วโพรงปาก ตวัดปลายลิ้นร้อนรุ่มจนได้ยินเสียงครางอือในลำคอขาว ท้ายที่สุดเจ้าตัวก็ยอมโอนอ่อนและคล้อยตาม ปล่อยให้ชานยอลเป็นฝ่ายนำทาง


มาเฟียเซี่ยงไฮ้ที่โดนกล่าวหาว่ากระจอกปลดกางเกงยีนส์ออกจากเรียวขาขาวที่พยายามตีไปมาหนีสัมผัสเขาแต่ก็ไม่พ้น แบคฮยอนใช้ศอกค้ำกับเตียงเพื่อพยุงตัวขึ้นมาต่อสู้แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว กางเกงยีนส์ถูกโยนลงไปกองกับผ้าขนหนูผืนเล็กบนพื้น


“ใครให้ทำ! อ้ะ...เกอ!!!” เสียงโวยวายสะดุดกึกเมื่อเขาโน้มตัวลงมากดจูบลงบนต้นขา ฝ่ามือหนาแยกเรียวขาขาวที่พยายามหนีบเข้าหากันออกไปพาดกับสะโพกสอบ ชานยอลกวาดสายตามองร่างกายขาวนวลที่เหลือแค่เสื้อยืดแขนยาวสีขาวกับชั้นในตัวเล็กก่อนจะกดยิ้มร้าย


“จะทำจนกว่าจะหยุดเรียกเกอไปเลยเป็นไง”


“ไม่เอา! อื้อ!...” เสียงทุ้มหยุดไปทันทีที่เขาใช้ริมฝีปากครอบครองแกนกายเล็กผ่านชั้นในเนื้อดี ลิ้นอุ่นร้อนไล้เลียไปตามความยาวของมันจนมาหยุดอยู่ที่ส่วนปลาย ในขณะที่ฝ่ามือหนาทั้งสองข้างก็บีบเค้นสะโพกกลมที่ดูจะเต็มไม้เต็มมือกว่าเดิมเล็กน้อย


ไม่เจอกันแค่อาทิตย์เดียว แบคฮยอนอ้วนขึ้นงั้นเหรอ?


นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่โดนเด็กพยศงอแงเหวี่ยงใส่ เพราะอาทิตย์ที่แล้วชานยอลเพิ่งจะบินไปจัดการแบคฮยอนที่เกาหลีถึงที่ด้วยข้อหาแอบหนีไปกินข้าวฟรีกับรุ่นพี่คณะวิศวะที่เจ้าตัวบอกว่าสนิทกันตั้งแต่ตอนเรียนปริญญาตรีแล้วพี่เขากลับมาเกาหลีเลยพาไปเลี้ยง ทั้งๆที่เขาสั่งห้ามสั่งลูกน้องให้คุมไว้แล้วแท้ๆแต่ก็ยังรั้นที่จะไปให้ได้


แต่แบคฮยอนไม่รู้หรือไงว่าเวลาคนมันหึง จะสนิทหรือไม่ใครจะสน


“อ๊ะ” เสียงครางหวานหูมากกว่าเดิมเมื่อเจ้าตัวเล็กถูกปรนเปรอทั้งส่วนล่างแหละจุดไวสัมผัสบนแผ่นอก ฝ่ามือหนาสอดเข้ามาใต้เสื้อยืดก่อนจะลูบไล้ไปมาจนขนอ่อนลุกซู่ไปหมด ยอดอกนูนขึ้นตามอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นมาด้วยปลายนิ้วที่กำลังบีบคลึงมันไปมา เอวบางแอ่นจนแทบลอยเมื่อชั้นในถูกดึงออกแล้วแทนที่ด้วยความอุ่นร้อนที่ครอบครองลงมา  ชานยอลดูดเน้นย้ำและไล้ปลายลิ้นตรงส่วนปลายปริ่มน้ำรัวเร็วขึ้นกว่าเดิมเมื่อแกนกายเล็กเริ่มชูชัน


เขารู้จักร่างกายของแบคฮยอนดีไปหมดทุกส่วน รู้แม้กระทั่งตอนนี้แบคฮยอนใกล้จะแตะจุดสูงสุดของอารมณ์เต็มที ความรู้สึกวูบวาบไหลแล่นไปทั่วร่างกายพร้อมกับความขาวโพลนภายในสมอง คนตัวเล็กหลับตาพริ้มเผยอปากครางเสียงอ่อน ขาขาวเริ่มแยกออกกว้างขึ้นเมื่อเขาเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดของหวงอารมณ์ ปลายเท้าเริ่มเกร็งจิกผ้าปูที่นอนก่อนที่ร่างกายจะกระตุกเบาๆ


“อ อ๊า...ฮ” เส้นผมสีน้ำตาลเส้นเล็กกระจัดกระจายไปทั่วหมอน ใบหน้าหวานเชิดขึ้นเมื่อเขาปลดปล่อยออกมาจนสุด ฝ่ามือหนารูดรั้งแกนกายเล็กเพื่อขับน้ำสีขาวขุ่นออกมาให้หมด บางส่วนเขาก็กลืนกินมันเข้าไปและบางส่วนไหลเลอะลงมาถึงช่องทางด้านหลัง แบคฮยอนนอนหอบหายใจถี่หมดสภาพอยู่บนเตียง ปลายเสื้อที่ใส่อยู่ไม่ได้ช่วยปกปิดร่างกายเลยแม้แต่นิดเดียว


“ไง หายซ่าหรือยังครับคุณหนู” อดไม่ได้ที่จะกดจูบลงไปบนริมฝีปากรั้นๆนั่นสักทีสองทีจนโดนคนตัวเล็กงับริมฝีปากล่างเข้าให้


“ถอยไปเลยนะ!


“คิดว่าฉันเคยฟังไหม” ชานยอลยักคิ้วปั่นประสาทจนแบคฮยอนอยากจะลุกขึ้นไปข่วนหน้าหล่อๆนั่นให้มีรอยบากสักสองสามแผล


“ก็เพราะชอบเอาแต่ใจอยู่แบบนี้ไง อื้อ! ชานยอล!” ร่างเล็กๆแอ่นขึ้นอีกครั้งเพราะก้านนิ้วยาวที่สอดเข้ามาในช่องทางแบบไม่ทันได้ตั้งตัวถึงสองนิ้ว แบคฮยอนจิกปลายเล็บลงบนกล้ามแขนแน่นๆเมื่อความเสียวซ่านแผ่ลามเข้ามาถึงด้านใน


“ไม่เรียกเกอแล้วเหรอ”


“อ ไอ้บ้า อ้ะ...ช้าๆ” ชานยอลสอดนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะและเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆเมื่อเจอจุดที่จะทำให้เด็กพยศร้องครางไม่ขาดปาก ก้านนิ้วยาวกดย้ำที่เดิมซ้ำๆจนแกนกายเล็กที่เพิ่งปลดปล่อยรอบแรกออกไปสั่นระริก ตรงส่วนปลายเริ่มปริ่มน้ำอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะใช้มืออีกข้างช่วยรูดรั้งไปพร้อมๆกับนิ้วที่กำลังรุกรานช่องทางด้านหลังอย่างหนักหน่วง “อื้อ ชาน อะ.. ไม่เอาแล้ว”


“ไม่เอาอะไร” ใบหน้าหล่อกระซิบชิดข้างใบหูแดงก่ำ ตวัดลิ้นเลียร่องหูจนแบคฮยอนน้ำตาซึมด้วยความเสียว เขากำลังโดนปรนเปรอทั้งด้านหน้าด้านหลัง แถมจุดอ่อนที่หูและต้นคอก็ยังถูกรุกรานไปพร้อมๆกัน


รู้สึกดีจนจะบ้าตายอยู่แล้ว...


“ม อึก อ้ะ...ไม่เอานิ้ว”


“ทำเองสิ” สิ้นคำพูดชานยอลก็ทิ้งตัวนั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียง ผ้าขนหนูที่พันช่วงเอวอยู่โป่งนูนเพราะกามาอารมณ์ที่พุ่งสูงจนแทบอยากจะปลดปล่อย


แต่นั่นมันวิถีคนกระจอก คนจริงเขาไม่ปล่อยลงเตียงกันหรอก J


แบคฮยอนเม้มริมฝีปากแน่น หน้าแดงหูแดงไปหมด ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงทั้งที่ร่างกายยังสั่นระริก ทำใจกล้าวาดขาคร่อมหน้าตักก่อนจะบดเบียดสะโพกลงบนผ้าขนหนูที่มีความแข็งแกร่งซุกซ่อนอยู่ภายใน  คนตัวเล็กขยับกายน้อยๆจงใจให้แกนกายใหญ่ของเจ้าพ่อมาเฟียเสียดสีไปกับร่องสะโพกจนได้ยินเสียงครางต่ำเบาหวิวออกมาจากริมฝีปากหยัก มือเรียวยกขึ้นคล้องคออีกฝ่ายก่อนจะเป็นฝ่ายกดจูบลงไปก่อนทั้งที่ปกติไม่ค่อยได้ทำแบบนั้นสักเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าแบคฮยอนไม่กล้าทำ...


แต่เพราะมันช้าไม่ทันใจปาร์ค ชานยอลต่างหาก


ฝ่ามือหนายกขึ้นประคองสะโพกกลมพลางบีบเค้นไปด้วยระหว่างที่ยังโดนลิ้นเล็กที่กระทำอุกอาจสอดเข้ามาในโพรงปากของเขาอย่างอาจหาญ และก็กลายเป็นผู้แพ้ในท้ายที่สุดเมื่อชานยอลดูดคลึงเรียวลิ้นจนแบคฮยอนหายใจแทบไม่ทัน คนตัวสูงผละริมฝีปากออกก่อนจะลงมือจัดการกับเสื้อยืดที่แบคฮยอนสวมใส่ให้มันลงไปกองที่เดียวกับเสื้อผ้าชิ้นอื่น ริมฝีปากหนากลับมายุ่มย่ามตรงซอกคอขาวอีกครั้ง กดจูบสร้างร่องรอยแห่งการแสดงความเปนเจ้าของเอาไว้ทั่ว


เพราะแรงเสียดสีกันไปมาทำให้ผ้าขนหนูแยกออกจากกัน ท่อนเนื้อร้อนแนบเข้ากับร่องก้นนุ่มและยิ่งขยายขนาดมากขึ้นไปอีกเมื่อเด็กพยศเอาแต่ขย่มตัวลงมาอย่างตั้งใจ


จนถึงตอนนี้คุณหนูพยอนก็ยังดื้อไม่เลิก


มือเรียวเล็กแปะป่ายไปทั่วแผ่นอกกว้าง ลูบไล้ไต่นิ้วตั้งแต่รอยสักไปจนถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องในระหว่างที่กลีบปากก็ยังถูกมาเฟียหน้าหล่อเก็บแต้มจนน้ำสีใสไหลเลอะมุมปากไปหมด แกนกายขนาดใหญ่ถูกกอบกุมด้วยมือขาว รูดรั้งเบาๆแค่สองสามครั้งก่อนที่จะโดนครอบครองด้วยช่องทางอุ่นร้อน แบคฮยอนยกสะโพกขึ้นแล้วกดตัวลงไปบนความแข็งแกร่งแห่งมหานครเซี่ยงไฮ้


“อ้ะ..อือ” เสียงครางเบาหวิวดังขึ้นข้างหูของชานยอลในยามที่แก้มก้นขาวถูกขยำไปมาเพื่อให้แบคฮยอนผ่อนคลายในระหว่างที่กดตัวลงมาเพื่อรองรับความต้องการของเขาเอาไว้ทั้งหมด


“ไหวไหมแบคฮยอน” ชานยอลกดจูบลงบนขมับขาวชื้นเหงื่อเป็นรางวัลให้กับความพยายามของกระต่ายตัวน้อย


“อื้อ...” คนตัวเล็กครางอื้ออึงอีกครั้งเมื่อสะโพกสอบเริ่มสวนกายเข้ามาในขณะที่เขายังทำได้แค่นั่งทับตักอยู่นิ่งๆ แข้งขาไร้เรี่ยวแรงเพราะความเสียวซ่านกำลังเล่นงานอย่างหนัก


แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่เขาก็ทำให้แบคฮยอนตัวอ่อนปวกเปียกแทบทุกครั้ง


ชานยอลหัวเราะในลำคอเบาๆให้กับความว่าง่ายของคนบนตัก หาดูไม่ได้บ่อยนักหรอกกับการที่คุณหนูพยอนจะยอมอยู่นิ่งๆซบหน้าลงกับไหล่ของเขาแบบนี้ เรื่องง้องอนคงถูกโยนทิ้งไปกับคำว่าเกอเรียบร้อยแล้วจากการที่คนตัวเล็กเรียกชื่อชานยอลตามปกติที่เจ้าตัวเคยเรียก เขาไม่เคยบอกให้แบคฮยอนเรียกตัวเองว่าพี่ และแบคฮยอนเองก็ไม่เคยคิดจะเรียกเขาว่าพี่ ไม่เหมือนกับคนอื่นๆในรุ่นที่กลายเป็นพี่ของเจ้าตัวเล็กนี่ไปเสียหมด ยกเว้นเวลาโดนงอนเท่านั้นแหละถึงจะโดนย้ายตำแหน่งให้กลายเป็นพี่ แต่ถ้าโดนโกรธขึ้นมา แม้แต่คนสวนก็ยังไม่ให้เป็นเลย


“อ๊ะ อะ” เสียงครางหลุดรอดออกมาอีกครั้งเมื่อชานยอลจงใจสวนสะโพกขึ้นไปเต็มแรง สองมือคอยประคองเอวเล็กเป็นแรงส่งให้ขยับตัวขึ้นลงตามจังหวะอารมณ์ที่กำลังไต่ระดับ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังพั่บๆไปทั่วห้องนอนสุดหรูบนเพนท์เฮ้าส์ราคาหลายสิบล้าน หัวกลมๆสั่นคลอนเมื่อโดนกระแทกไม่ยั้งแรงจากคนกระจอกที่ตอนนี้เริ่มจะไม่กระจอกอย่างที่ถูกกล่าวหา


แท่งเนื้อร้อนสอดใส่เข้ามาลึกจนจุกเสียดและวาบหวิวไปหมดทั้งช่องท้อง ในขณะที่แกนกายเล็กก็เสียดสีไปกับลอนกล้ามเนื้อจนแทบจะปลดปล่อยอยู่รอมร่อ


“รู้ไหมว่าคิดถึง”


“อ อะ...ร รู้แล้ว อ้ะ”


“แล้วทำไมต้องงอนกันด้วย” แก้มแดงๆซอนซบลงไปที่รอยสักลายมังกร ทิ้งตัวให้อีกคนชักจูงไปในทิศทางที่มันควรจะเป็น เวลานี้แบคฮยอนหมดแรงสู้แล้วจริงๆ


“ก็...อื้อ ทำอะไร...อ่ะ ชอบไม่ยอมบอกกันก่อนนี่”


“ถ้าบอกแล้วจะยอมมาไหมล่ะ”


“ไม่...อ๊า!” ชานยอลพลิกตัวกดร่างเล็กลงบนเตียงอีกครั้งเมื่อเห็นว่าแบคฮยอนไม่มีแรงพอที่จะพยุงตัวนั่งบนตักของเขา แกนกายใหญ่สอดใส่เข้าไปในช่องทางสีหวานอีกครั้งก็จะกระแทกเร็วๆจนอีกฝ่ายร้องเสียงหลงครางไม่เป็นจังหวะ


แบคฮยอนมักจะโวยวายเวลาเขาทำอะไรแล้วมาบอกทีหลังทุกครั้ง ก็เพราะถ้าบอกก่อนทำแล้วมันจะเป็นแบบนี้นี่ไง ถ้าบอกว่าจะให้บินมาเซี่ยงไฮ้เพราะเขาคิดถึงแบคฮยอนก็ไม่ยอมมาเพราะอาทิตย์ก่อนก็เพิ่งเจอกันไป


“อื้อ...เร็วๆ ชานยอล อะ อะ...”


“อ่าห์...ซ แบคฮยอนอย่าเกร็ง ” เสียงทุ้มครางต่ำเมื่อห้วงอารมณ์ที่อัดแน่นอยู่ตรงแกนกายร้อนกำลังจะถูกปลดปล่อย แบคฮยอนหลับตาปี๋เผยอปากครางเป็นจังหวะตามแรงกระแทกที่ส่งเข้าไปในร่างกาย เสียงเฉอะแฉะจากของเหลวที่เริ่มไหลซึมออกมาจากท่อนเนื้อร้อนยิ่งเร่งเร้าอารมณ์จนในท้ายที่สุดแกนกายเล็กก็กระตุกปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาจนเลอะหน้าท้องของตัวเอง


ชานยอลจับสะโพกเล็กแล้วสวนกายเข้าถี่ๆและปลดปล่อยอาวุธปราบพยศทั้งหมดออกมาในจังหวะสุดท้ายที่แบคฮยอนครางออกมาลั่นห้อง



“อ อ๊า!” 



มีต่ออีกนิดนึงนะคะ กลับไปอ่านที่เด็กดีเลย -> CLICK

No comments:

Post a Comment