ช่วงเอวถูกบีบเค้นจนผมสะดุ้งแต่เขาก็เบนความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่ปลายลิ้น
จูบหนักหน่วงยังคงดำเนินต่อไปท่ามกลางเสียงดูดดึงที่ดังก้องไปทั่วห้องน้ำ
"อ..อื้อ คุณ" ผมร้องท้วงเมื่อซอกคอกำลังถูกรุกรานด้วยปลายลิ้นร้อนที่ตวัดเลียชิมผิวสลับกับแรงดูดเบาๆ
ช่องท้องวูบไปหมดเมื่อเสื้อที่สวมอยู่ถูกปลดออกโดยที่ผมไม่มีแม้แต่แรงจะต่อต้าน
แผ่นหลังถูกโอบไว้ด้วยท่อนแขนแกร่งแล้วรั้งให้ผมเอนตัวไปพิงอกเขาแทนที่จะนั่งพิงกับกระจกเย็นๆ
"คุณชานเลี่ย...ไม่ อะ..."
ผมกดใบหน้าลงกับลาดไหล่กว้างเมื่อเขาผละจากซอกคอขึ้นมาขบเม้มที่ใบหู ตวัดลิ้นไล้เลียผิวเนื้ออ่อนอย่างหยอกเย้า
และเพราะมันเป็นจุดอ่อนที่เพียงแต่โดนจับหรือลูบนิดหน่อยแข้งขาก็พาลจะไร้เรี่ยวแรง
แล้วแบบนี้ผมจะสู้เขาไหวได้ยังไงกัน...
"ตัวหอมจัง เพิ่งอาบน้ำเหรอครับ"
"ป เปล่า...อ้ะ คุณปล่อยผม.. อื้อ"
ผมหอบหายใจถี่เมื่อแผ่นอกของตัวเองกำลังถูกปลายนิ้วยาวกลั่นแกล้ง ผมสะดุ้งเป็นครั้งคราวในยามที่เขาสะกิดยอดอกและกดปลายนิ้วลงมาบดคลึง
ผิวกายร้อนผ่าวไปแทบทุกที่ที่เขาสัมผัส คุณชานเลี่ยกัดผิวตรงช่วงไหปลาร้าเบาๆจนผมร้องอึกอักในลำคอก่อนที่เขาดันไหล่ผมให้พิงหลังไปกับกระจกใสบานใหญ่ที่มีเสื้อเชิ้ตสีดำของเขารองทับไว้
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เขาถอดเสื้อของตัวเองออก
แม้แต่ในเวลาที่ความใส่ใจเล็กๆน้อยๆควรจะถูกมองข้าม
หากแต่เขากลับสนใจเพียงเพราะรู้ว่าถ้าผิวเนื้อเปลือยเปล่าแนบลงไปกับแผ่นกระจกคงจะเย็นน่าดู
ผมปรือตามองร่างกายท่อนบนของเขาที่ไร้เสื้อผ้าปกคลุมไม่ต่างกันกับผมแล้วก็อดที่จะเขินไม่ได้
ทำไมถึงแตกต่างกันขนาดนี้...เขามีกล้ามเนื้อแข็งๆตามแบบที่ผู้ชายควรจะเป็น รอยสักที่พาดอยู่ตรงช่วงไหล่ซ้ายขับให้ดูดุดันยิ่งกว่าเดิม
ในขณะที่ตัวผมนุ่มนิ่มไปหมด ออกกำลังกายเท่าไหร่ก็ยังไม่เห็นกล้ามเนื้อเป็นรูปเป็นร่างสักที
"คุณไม่ควรมองผมแบบนี้แบคฮยอน"
"ไม่...ไม่เอานะครับ นะ" ผมเอ่ยห้ามเสียงแผ่วตามเรี่ยวแรงที่ยังเหลืออยู่แต่ก็ไม่เป็นผล
ท่อนขาทั้งสองข้างถูกรั้งขึ้นมาให้ตั้งฉากกับเคาน์เตอร์ก่อนที่ปลายลิ้นอุ่นจะกลับมารุกรานบนยอดอกอีกครั้ง
เขาตวัดปลายลิ้นสลับกับดูดดึงจนมันแข็งตัวตามแรงอารมณ์ที่ถูกสร้างขึ้น
ฝ่ามือใหญ่อาศัยจังหวะที่ผมตัวโอนอ่อนไปตามแรงชักจูงของเขาในการปลดกางเกงกับชั้นในออก
ผมยกมือขึ้นปิดหน้าทันทีที่สายตาของเขาจดจ้องร่างกายจนรู้สึกร้อนไปหมด
"อ...อะ อ๊ะ" สัมผัสแปลกประหลาดทำให้ผมหลุดเสียงครางออกมาอย่างลืมอาย
ความอุ่นชื้นเข้าครอบครองจุดรวมสัมผัสที่กลางลำตัวพร้อมกับแรงรูดรั้งจากฝ่ามือหนา
"อือ...คุณ"
ผมจิกปลายนิ้วลงบนข้อมือของเขาที่ช้อนประคองใต้ข้อพับขาไว้แน่น
สมองเริ่มขาวโพลนเพราะถูกห้วงอารมณ์ครอบงำไว้จนหมดสิ้น โพรงปากกับลิ้นซุกซนของเขาเล่นสนุกกับร่างกายของผมจนแผ่นหลังแอ่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
ผมหอบหายใจถี่เมื่ออารมณ์กำลังดำเนินมาจนถึงจุดสูงสุด
มือทั้งสองข้างเปลี่ยนไปจับกลุ่มผมสีเทาของเขาโดยไม่รู้ตัว คุณชานเลี่ยเร่งจังหวะจนผมปลดปล่อยเสียงน่าอายออกมาดังก้องไปทั่วห้องน้ำ
"อ๊ะ...ถอย คุณชาน...อื้อ!"
เขาไม่แม้แต่จะฟังเสียงร้องห้ามของผม โพรงปากอุ่นประสานกับฝ่ามือช่วยกันเร่งจังหวะจนร่างกายของผมกระตุกและปลดปล่อยออกมา...ในปากของเขา
ผมปิดเปลือกตาหอบหายใจพิงกระจกอย่างเหนื่อยอ่อน
แม้ว่าจะเป็นฝ่ายที่นั่งเฉยๆแต่กลับรู้สึกเหมือนได้ออกกำลังกายสามชั่วโมงติดต่อกันโดยไม่ได้พักเสียด้วยซ้ำ
"ฮื่อ...อ เอาเสื้อของผมมา"
"เอาไปทำไมครับ ยังไม่เสร็จ"
เขากดจูบลงมาบนริมฝีปากแดงเจ่อของผมก่อนจะช้อนร่างกายที่อ่อนปวกเปียกไปวางลงบนเตียงหลังใหญ่ที่ผมไม่แม้แต่จะเคยทิ้งตัวลงนั่ง
ผ้าปูที่นอนสีดำสนิทตัดกับผิวเนื้อสีน้ำนมยิ่งเร่งเร้าอารมณ์ของคนเอาแต่ใจที่ดูเหมือนจะเก็บกดมาตลอดอาทิตย์ให้ปลดปล่อยมันทั้งหมดออกมา
คุณชานเลี่ยเท้าแขนคร่อมตัวแล้วแทรกร่างกายเข้ามาระหว่างท่อนขาก่อนจะป้อนจูบลงมาแทบนับไม่ถ้วน
มัวเมาสติของผมด้วยสัมผัสของเขาอีกครั้งจนแทบจะไม่ได้ยินแม้แต่เสียงถอดกางเกงสแล็คสีดำที่เขาสวมอยู่
ริมฝีปากอุ่นร้อนกับปลายจมูกโด่งลากไล้ไปทั่วผิวกายตั้งแต่ข้างแก้ม
ซอกคอ แผ่นอก จวบจนหน้าท้องขาว เขาแตะปลายลิ้นลงบนสะดือจนผมต้องแขม่วหน้าท้องเพราะความเสียววูบที่แล่นปราดขึ้นมา
ความรู้สึกจี๊ดๆไม่ต่างจากที่ซอกคอและช่วงไหล่ทำให้ผมรับรู้ว่าเขาฝากฝังรอยจูบแดงๆไว้บนผิวกายอีกที่
ฝ่ามือหนายังคงปรนเปรออยู่ที่ยอดอกในขณะที่ปลายลิ้นร้ายกาจแตะลงบนแกนกายเพื่อปลุกอารมณ์ของผมอีกครั้ง
"อ้ะ..." เส้นผมสีเทาปัดป่ายไปทั่วต้นขาด้านในทำให้แข้งขาที่ตั้งฉากกับพื้นเตียงสั่นจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่
"รู้อะไรไหมแบคฮยอน" คุณชานเลี่ยขยับตัวขึ้นมาแตะจูบแผ่วเบาลงบนมุมปากของผมอีกครั้งจนผมต้องปรือดวงตาฉ่ำเยิ้มเพราะอารมณ์วาบหวามขึ้นมอง
"รอบแรกอาจจะเป็นลูกสาว"
"อ...อึก คุณ" ผมบีบปลายนิ้วลงบนรอยสักสีดำสนิทเมื่อปลายนิ้วยาวแตะวนที่ช่องทางด้านหลัง
นวดคลึงอยู่ครู่หนึ่งเพื่อให้ผมผ่อนคลายแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
ครั้งแรกกับเรื่องแบบนี้แม้อารมณ์จะมีอำนาจเหนือสติแต่ก็ยังมีความกังวลเจอปนอยู่ตลอด
ผมเบะปากร้องเสียงแผ่วเมื่อความรู้สึกแปลกประหลาดจากก้านนิ้วยาวรุกล้ำเข้ามาภายในช่องทางอุ่นร้อนที่ปวดตุบๆ
"อย่าเกร็ง"
"อื้อ... อย่าขยับ อ้ะ..."
ความอึดอัดพุ่งสูงขึ้นเมื่อช่องทางด้านหลังถูกเติมเต็มด้วยนิ้วที่สองและสามทันทีที่คนตัวสูงจับจังหวะได้ว่าผมเริ่มเปิดรับเขามากขึ้น
คุณชานเลี่ยทิ้งจังหวะให้ผมปรับตัวเพียงครู่เดียวก่อนที่เขาจะเริ่มขยับนิ้วเข้าออกสร้างความคุ้นชินให้ร่างกายของผมเพื่อรองรับสิ่งที่ใหญ่กว่า
หยดน้ำตาไหลซึมที่หางตาได้ไม่นานก็ถูกจูบซับออก ช่องทางด้านหลังปวดตุบๆเพราะสิ่งแปลกปลอมที่สอดเขามา
ผมบิดตัวไปมาด้วยความเสียวในช่องท้องเมื่อปลายนิ้วของเขาไปกระทบกับจุดไวสัมผัสภายในแต่ก็โดนมืออีกข้างกดเอวไว้กับเตียง
คุณชานเลี่ยขยับนิ้วเข้าออก เร่งจังหวะเร็วขึ้น ความเสียวซ่านแล่นไปทั่วร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า
ปลายนิ้วเท้าของผมจิกผ้าปูเตียงยับยู่ยี่ไปหมด
เป็นความเจ็บปวดที่ปะปนไปด้วยความรู้สึกเต็มอิ่มในหัวใจ
“ผมต้องการคุณ รู้ใช่ไหม”
คุณชานเลี่ยกระซิบข้างหูก่อนจะถอนนิ้วทั้งสามออกเมื่อแรงบีบรัดเพราะความเกร็งในทีแรกเริ่มผ่อนคลายลง
และสีหน้าของผมคงดูจะไม่ไหวเต็มที แกนกายเริ่มชูชันอีกครั้งเพราะโดนปลุกอารมณ์จากช่องทางด้านหลัง
เขาดึงมือผมไปแตะลงบนท่อนเนื้อแข็งเกร็งที่พร้อมจะปลดปล่อยแบบเต็มสูบ
ผิวแก้ม
อุ่นซ่านขึ้นมาเมื่อปลายนิ้วถูกรวบให้จับแกนกายอุ่นร้อนแล้วรูดขึ้นลงเบาๆ
เสียงทุ้มครางต่ำใกล้ใบหูทำให้ผมต้องหลับตาแน่น เขาบังคับมือผมให้เร่งจังหวะเร็วขึ้นจนสัมผัสได้ขึ้นความชื้นจากส่วนปลาย
อารมณ์ที่กักเก็บอยู่ภายในตัวเขาใกล้จะปะทุออกมาเต็มที
และหยดน้ำตาเม็ดโตก็ตกกระทบลงบนหมอนเมื่อความแข็งแกร่งของเขาถูกสอดใส่เข้ามาเพียงส่วนปลาย
“ฮึก...เจ็บ” ผมจิกเล็บลงกับผ้าปูที่นอนเมื่อความเจ็บปวดที่แตกต่างจากนิ้วมือเมื่อครู่มันรุนแรงกว่าที่คิด
ช่องทางบีบรัดความใหญ่โตนั้นไว้แน่นจนยากที่จะผลักดันมันเข้ามา
“ขอโทษ” คุณชานเลี่ยจูบลงบนใบหูของผมเบาๆพร้อมคำขอโทษก่อนที่จะรั้งต้นคอของผมให้เงยหน้าขึ้นรับจูบหวานๆแทนคำปลอบทั้งหมดที่เขาต้องการจะมอบให้
เขาหยุดทุกอย่างไว้เพียงเท่านั้นเพราะผมยังงอแงไม่หยุด คุณชานเลี่ยเลื่อนใบหน้าลงมา
พรมจูบลงบนแผ่นอก
ใช้ปลายลิ้นสะกิดยอดอกเพื่อเบนความสนใจพร้อมกับอีกข้างที่โดนก้านนิ้วยาวบีบคลึงจุดที่ทำให้ความซ่านเสียวทำงานทับที่ความเจ็บปวดอีกครั้ง
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างแนบเนียน
เขาเล้าโลมปลุกอารมณ์ของผมไป ในขณะเดียวกันก็พยายามดันความแข็งแกร่งของตัวเองเข้ามาในตัวผม
ก้อนสะอื้นยังจุกอยู่ในลำคอทุกครั้งที่ร่างกายใหญ่โตขยับเข้ามาชิด
สอดใส่ตัวตนของเขาลึกเข้ามาในร่างกายจนสุดทาง
“อึก...คุณ อย่า” ผมแตะมือดันหน้าท้องแน่นกล้ามของเขาเบาๆเมื่อคุณชานเลี่ยกระทุ้งกายเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว
ความเจ็บแล่นริ้วขึ้นมาถึงสมองแต่ก็ยังปะปนไปด้วยความวาบหวามที่เขามอบให้ยามที่เริ่มขยับกายเข้าออกเบาๆ
“ไม่มีคุณกับผม มีแค่เฮียกับแบคฮยอน”
ท่อนขาถูกช้อนพาดไปกับลำแขนแกร่ง
เขากดจูบลงบนริมฝีปากของผมอีกครั้งก่อนจะเริ่มขยับตัวไปตามแรงอารมณ์ที่กักเก็บไว้ตั้งแต่ต้นเมื่อเห็นว่าผมผ่อนคลายจนเขาสามารถขยับร่างกายลึกเข้ามาได้อีก
“อ๊ะ...อะ” ผมหลับตากอดคอเขาไว้แน่นเมื่อแรงส่งจากร่างกายสูงใหญ่กระทุ้งเข้าที่จุดไวสัมผัส
ช่องทางตอดรัดแกนกายของเขาด้วยความไม่คุ้นชินเป็นจังหวะถี่รัวจนคุณชานเลี่ยขบกรามแน่นและคอยกระซิบข้างหูผมไม่ให้เกร็งเกินไป
“แบคฮยอนอย่ากลั้นเสียง”
“ค คุณชานเลี่ย...อื้อ เบาๆ”
“เฮียบอกแบคฮยอนว่ายังไง”
เขาสวนสะโพกเข้ามาจนร่างกายของผมสั่นคลอน
แผ่นหลังและบั้นเอวแอ่นรับแรงกระแทกที่เริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนผมหายใจไม่ทัน
“ฮึก อ้ะ...เบา อ...เฮียชาน” เสียงหัวเราะในลำคอแผ่วเบาดังขึ้นพร้อมกับแรงกระแทกกระทั้นถี่รัวจนผมครางไม่เป็นภาษา
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องในหูไม่แพ้กับเสียงหัวใจที่เต้นรัวเร็วเป็นจังหวะเดียวกันกับคนเอาแต่ใจที่ยังตักตวงความสุขจากร่างกายของผม
ทั้งรักแรก จูบแรก และครั้งแรก เป็นของเขาทั้งหมด
“อึก...อื้อ เฮีย ช้าๆ...อ๊ะ”
“อ่าห์...”
เข็มนาฬิกาหมุนวนผ่านไปไม่รู้กี่นาที
มื้อเย็นถูกละเลยไปแล้ว
เครื่องปรับอากาศในห้องเหมือนไม่ได้ถูกเปิดใช้งานเมื่อสองร่างที่กอดก่ายกันอยู่บนเตียงเหงื่อซึมไปทั่วร่าง
จังหวะรักของเขาร้อนแรงจนคนด้อยประสบการณ์แบบผมดูไม่มีประโยชน์กับเรื่องบนเตียงเอาเสียเลย
คุณชานเลี่ยเอาแต่พึมพำในลำคอว่าทำไมตัวผมถึงแดงขนาดนี้แต่เขาก็ยังไม่หยุดกลั่นแกล้งด้วยการหมุนควงเอวแล้วกระแทกร่างกายเข้ามาอีกครั้ง
ผมสะบัดหน้าเชิดขึ้นตามแรงอารมณ์ที่ไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ
เส้นผมชื้นเหงื่อกระจายจนไม่เป็นทรง
และในช่วงสุดท้ายของห้วงอารมณ์ที่แรกกระแทกกระทั้นเข้ามารัวเร็วเหมือนผมกำลังอยู่บนซูเปอร์คาร์ในสนามแข่งรถคราวนั้น
ความรู้สึกหมุนคว้างเกิดขึ้นภายในหัวจนสายตาเริ่มพร่าเลือน ในที่สุดพายุลูกใหญ่บนเตียงก็พัดผ่านไปพร้อมกับเสียงครางสุดท้ายและความอุ่นร้อนที่ฉีดเข้ามาในร่างกายจนเต็มล้นออกมาเปรอะต้นขาด้านใน
ผมหอบหายใจทั้งที่ยังกอดคอของเขาเอาไว้แน่น ลมหายใจอุ่นๆของคุณชานเลี่ยที่กระทบลงมาที่ซอกคอชื้นเหงื่อทำให้ผมเผลอแตะมือไล้หลังคอเขาเบาๆอย่างลืมตัว
ปลอบประโลมคนอันตรายอย่างเขาให้คลายเหนื่อย
โดยไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นภัยกับตัวเอง
“อ๊ะ” ผมหลุดเสียงน่าอายออกมากะทันหันเมื่อคุณชานเลี่ยสวนสะโพกเข้ามาอีกครั้ง
“ช่วยไม่ได้นะแบคฮยอน”
“ด เดี๋ยว...อื้อ ผมเจ็บ” ผมทุบไหล่เขาไปหนึ่งที
ฝ่ามือหนาจับขาผมให้เกี่ยวเอวของเขาไว้ก่อนที่เขาจะอุ้มผมเดินเข้าห้องน้ำโดยที่ร่างกายยังคงเชื่อมกันอยู่
เสียงครางแผ่วหลุดออกมาเป็นระยะตามจังหวะการลงส้นเท้าที่ดูจะเน้นหนักกว่าทุกวัน
“อ...มา...ห้องน้ำทำไม อ้ะ”
“มันก้องดี”
เขาก้มลงมางับปลายจมูกของผมเบาๆก่อนจะกดยิ้มร้ายในแบบที่เขาชอบทำ “รอบที่สองอาจจะเป็นลูกชาย”
“อะ อ๊ะ...อ ไม่” เขาวางผมให้ยืนลงผมพื้นกระเบื้องเนื้อเย็นเฉียบก่อนจะจับให้ผมหันหลังเอามือค้ำไว้กับผนังห้องน้ำ
ฝ่ามือใหญ่บีบเค้นเนินเนื้อสะโพกในขณะที่สอดแกนกายเข้ามาอีกครั้งอย่างง่ายดายเพราะของเหลวที่ยังคั่งค้างอยู่ในช่องทางด้านหลัง “อื้อ...”
“มีปานที่สะโพกเหรอแบคฮยอน”
“อ๊ะ...เบาๆครับ” ผมซบใบหน้าลงกับท่อนแขน แอ่นสะโพกโดยไม่รู้ตัวเมื่อความเสียวซ่านตีรื้นขึ้นมาจนโหวงไปทั่วช่องท้อง
ท่าทางแบบนี้มันทำให้เขาสอดใส่เข้ามาได้ลึกขึ้นจนจุกไปหมดหากแต่ร่างกายของผมกลับตอดรัดรับจังหวะของเขาได้ทุกครั้ง
“ให้ตาย...เซ็กซี่ชะมัด อ่าห์...”
“อึก...อือ”
กัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางเมื่อแรงกระแทกรัวเร็ว
ตัวตนของเขาสอดเข้าลึกกว่าที่เคยจนแข้งขาอ่อนไปหมดแต่ก็ยังถูกรั้งเอวให้ทรงตัวเพื่อรับอารมณ์ของเขา
“ฮึก”
แพขนตาเริ่มเปียกชื้นอีกครั้งเพราะหยดน้ำตาที่เกิดจากความซ่านที่ร้ายกาจกว่ารอบแรกและหยดเหงื่อ
คุณชานเลี่ยเร่งจังหวะสวนสะโพกพร้อมกับส่งมือมารูดรั้งแกนกายของผมที่กำลังรอการปลดปล่อยเมื่อพายุลูกที่สองกำลังโหมกระหน่ำเข้ามาและกำลังจะพัดผ่านไป
เขาก้มตัวลงมากดจูบลงบนบั้นเอวด้านขวา
ตรงตำแหน่งที่มีปานแดง ใช้ฝ่ามือบีบเค้นสะโพก ไล้ปลายลิ้นและดูดดึงด้วยริมฝีปากจนผมมั่นใจว่าผิวตรงนั้นต้องแดงกว่าเดิมเพราะเขาแน่ๆ
“อะ อ๊ะ...อ๊า”
น้ำสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยออกมาเป็นรอบที่สามจนเลอะแผ่นกระเบื้องไปหมด
ผิวแก้มและผิวกายเห่อแดงจากการเสียเหงื่อมากกว่าปกติ
ร่างกายของผมกระตุกอีกครั้งเมื่อรู้สึกอุ่นวาบที่ช่องทางด้านหลัง
คุณชานเลี่ยขยับตัวอีกสองสามครั้งเพื่อรีดมันออกมากักเก็บในตัวของผมจนหมด “อือ...เฮีย
ไม่เอาแล้วนะ ฮึก”
มีต่ออีกนิดนึงนะคะ กลับไปอ่านที่เด็กดีเลย -> CLICK
No comments:
Post a Comment