Thursday, 26 January 2017

[CUT SCENE] Shanghai Romance - Seventeenth












ลักยิ้มข้างแก้มปรากฏขึ้นอีกครั้งในจังหวะที่ชานยอลโน้มหน้าลงไปป้อนจูบให้คนตัวเล็กใต้อาณัติ เขาไม่เคยได้ทำความรู้จักกับจูบที่ทำให้รู้สึกอยากยิ้มกว้าง ๆ เท่านี้มาก่อน จูบเบา ๆ ย้ำ ๆ ที่เหมือนแกล้งกันให้หัวใจกระตุกเล่นทั้งสองฝ่าย จูบที่แบคฮยอนหลับตาพริ้มอย่างไม่ต่อต้าน เพื่อให้เขาทาบทับสัมผัสลงไปบนความนุ่มนิ่มครั้งแล้วครั้งเล่า
แบคฮยอนจะรู้บ้างหรือเปล่า
ว่าตัวเองยิ่งทำให้ความอดทนของชานยอลต่ำลงเมื่ออยู่บนเตียง
“อะ...เย็นนะ”
“แป๊บเดียว” เสียงร้องท้วงดังขึ้นเมื่อชานยอลสอดมือเข้าไปแตะช่วงเอวเล็กที่อยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ต “เดี๋ยวก็ร้อน”
การจะทำให้เด็กเชื่อฟังได้ บางครั้งก็ต้องล่อเด็กด้วยขนม
แบคฮยอนก็เช่นกัน
ในตอนนี้เขากำลังถูกชานยอลมอมเมาด้วยจูบที่ทำให้ร่างกายร้อนขึ้นยิ่งกว่าตอนดื่มแชมเปญ เรียวลิ้นคอยเกี่ยวกระหวัดไม่ให้เขาได้ตั้งตัว ทั้งบดทั้งคลึงกลีบปากจนเบลอไปหมด พร้อมกันกับปลายนิ้วร้ายกาจที่ไม่รู้ว่าปลดกระดุมเสื้อของแบคฮยอนออกตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้เพียงแค่ในตอนนี้ ผิวกายขาวนวลเนียนกำลังถูกจับจ้องจากใครบางคน
วินาทีที่ถูกจูบลงบนหน้าท้อง แบคฮยอนเผลอจิกปลายเล็บเข้ากับผ้าปูเตียง ขยุ้มมันจนยับยู่ยี่เมื่อเขาเริ่มขยับริมฝีปากไปทั่วผิวเปลือยเปล่า ชานยอลแตะจูบลงบนผิวนุ่มและดูดดึงจนมันขึ้นรอยแดง
ไล่จากหน้าท้อง ขึ้นไปจนถึงแผ่นอก
เช่นเดียวกับตอนแรก แต่ความรู้สึกต่างกันมากโข
ว่ากันว่าริมฝีปากเป็นจุดไวสัมผัสอีกจุดหนึ่งของร่างกายมนุษย์ ทว่าแบคฮยอนกลับคิดว่าทุกที่บนร่างกายของเขาไวกับสัมผัสของชานยอลทั้งหมด
“อ อื้อ” ยอดอกเล็กถูกไล้เลียแผ่วเบาก่อนที่มันจะถูกครอบครองเอาไว้ในโพรงปากอุ่น ดูดคลึงจนเจ้าของของมันบิดกายไปมา จนชานยอลต้องล็อกแขนแบคฮยอนเอาไว้ไม่ให้ดิ้น “ฮึก...”
“เกอทำแบคฮยอนเจ็บเหรอ” ทุกการกระทำหยุดชะงักเมื่อเสียงสะอื้นหลุดออกมาจากกลีบปากเล็กที่เริ่มบวมเจ่อเพราะถูกรังแกไปหลายครั้งหลายครา
แบคฮยอนไม่รู้จะตอบชานยอลยังไง ความรู้สึกจี๊ด ๆ ที่ยอดอกมันไม่ได้ทำให้เขาเจ็บ แต่กลับรู้สึกดีจนน้ำตาคลอเพียงเพราะไม่รู้จะระบายอารมณ์และความรู้สึกที่ตีกันอยู่ภายในออกมาอย่างไร
หัวกลม ๆ ส่ายไปมาจนเส้นผมยุ่งเหยิง คนโตกว่าใช้ฝ่ามือสางผมม้าขึ้นก่อนจะก้มลงกดจูบหนัก ๆ บนหน้าผากขาวเนียน
“ต่อแล้วนะ ถ้าเจ็บให้บอก รู้ไหม” เสียงทุ้มกระซิบไม่ห่างจากข้างแก้มทำให้แบคฮยอนต้องหลับตาลงเพื่อหลบหลีกสายตาของชานยอลอีกครั้ง
จูบบางเบาแตะลงตรงเปลือกตา ก่อนที่ริมฝีปากซุกซนจะเลื่อนลงไปซุกไซ้ซอกคอ สันจมูกโด่งลากไล้ไปมาสลับกับแตะจูบที่ไม่ทิ้งร่องรอยชวนเขินเอาไว้ ฝ่ามือใหญ่ลากไล้ไปทั่วผิวกายนุ่มมือ เขารู้ว่าแบคฮยอนกำลังกลัวและกังวล ร่างเล็กสะดุ้งทุกครั้งยามที่เขาแตะจูบลงบนผิว หรือคลึงปลายนิ้วที่ช่วงเอว
ผิวขาวเริ่มแต่งแต้มด้วยรอยแดงประปราย หากไม่นับรอยแดงบนแก้มกับริมฝีปาก ร่างกายของแบคฮยอนก็ถูกจับจองเอาไว้หมดทุกพื้นที่ตั้งแต่แผ่นอกไปจนถึงหน้าท้อง
ความวาบหวิวจากปลายลิ้นที่แตะลิ้มชิมรสไปทั่วผิวกายกำลังกล่อมให้แบคฮยอนเคลิ้มจนแทบไม่ได้สติ เหมือนล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆหนานุ่ม และในท้ายที่สุดก็ถูกกระชากกลับลงมาสู่ผืนโลกเมื่อความอุ่นร้อนเข้าครอบครองส่วนไวสัมผัสตรงกลางลำตัว
“อ้ะ...ชานยอล” เส้นผมที่ปัดป่ายไปมาตรงระหว่างขายิ่งเร่งเร้าให้อารมณ์พุ่งขึ้นสูง ปลายลิ้นร้อนและโพรงปากอุ่น ๆ กำลังสอนรสชาติของความรักในอีกรูปแบบหนึ่งให้แบคฮยอนได้รับรู้
ว่าปาร์ค ชานยอลเก่งกาจแค่ไหน
“อื้อ” แทบไม่รู้ตัวเลยว่ากางเกงกับชั้นในถูกอีกฝ่ายถอดออกตั้งแต่เมื่อไหร่ แบคฮยอนไม่มีโอกาสแม้แต่จะถอยห่างออกจากอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา ได้แต่ยอมจำนนให้เขาเชยชิมจนกว่าจะพอใจ
มีเพียงเสียงน่าอายที่เกิดจากการดูดคลึงส่วนไวสัมผัสให้คุณหนูได้เบียดแก้มฝังลงกับหมอนใบนุ่ม ไม่รู้ว่ามันจะช่วยหลบหลีกความเขินอายได้สักเท่าไหร่ แต่ก็ขอแค่ให้ได้หลบจากสายตาของชานยอลก็พอ
“อ..อะ เบา ๆ” เอวเล็กแอ่นขึ้น ร่างกายบิดเร่าเมื่อเขาเร่งจังหวะด้วยปากและมือไปพร้อม ๆ กัน
กับคนที่ไม่เคยได้ใกล้ชิดกับเรื่องแบบนี้เลยสักครั้งย่อมรู้สึกเหมือนกำลังวิ่งแข่งนานนับชั่วโมงโดยไม่ได้หยุดพัก แม้จริง ๆ แล้วแบคฮยอนแค่นอนเฉย ๆ อยู่ใต้ร่างของชานยอลเท่านั้น ลมหายใจอุ่นหอบกระชั้นเมื่ออารมณ์พุ่งขึ้นสูง กลีบปากแดงเผยออ้าออก กอบโกยอากาศเข้าสู่ปอด ทว่ามันกลับไม่ได้ช่วยอะไรนักเมื่อคนใจร้ายก็ยังคงรังแกเขาอย่างเอาแต่ใจ
อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นพอ ๆ กับอารมณ์ที่กำลังจะถูกเร่งเร้าให้ปลดปล่อยออกมา ฝ่ามือเล็กข้างซ้ายถูกสอดประสานนิ้วเอาไว้แน่นราวกับชานยอลรู้ว่าแบคฮยอนกำลังต้องการที่พึ่ง แรงบีบที่ฝ่ามือทำให้เขาเร่งจังหวะริมฝีปากให้เร็วกว่าเดิมจนคุณหนูตัวเล็กหลุดครางเต็มเสียง
แม้จะรู้ว่ายิ่งเร็วเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ยิ่งทรมาน แต่มันเป็นความทรมานที่มีความสุข
“อ้ะ...อา”
ความวาบหวามทั้งหมดถูกปลดปล่อยออกมาเลอะริมฝีปากของคนเอาแต่ใจ ชานยอลใช้หลังมือปาดมันออกแล้วกดยิ้มในขณะที่กำลังจดจ้องใบหน้าหวานที่นอนหอบอยู่บนเตียงหลังใหญ่ของเขา แก้มใสแดงก่ำเมื่อสังเกตเห็นว่าตัวเองทำให้อีกฝ่ายเลอะเทอะเปรอะเปื้อน
แต่ทั้งหมดนั่นมันเป็นความผิดของปาร์ค ชานยอลไม่ใช่หรือไงกัน
ร่างกายขาวจัดตัดกับผ้าปูเตียงสีน้ำเงินเข้มยิ่งทำให้เขาอยากจับคุณหนูพยอนมาฟัดให้หมดแรงคาอก เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ถูกถอดออกแล้วโยนไปตรงไหนสักแห่ง ก่อนที่กระดุมกางเกงจะถูกปลดตามมา
“เอาผ้าห่มห่อตัวไปก็ไม่รอดหรอก รู้ใช่ไหม”
“ไม่ให้ทำแล้ว” เสียงหวานดังอู้อี้ออกมาจากผ้าห่มทำให้ทายาทมาเฟียกระตุกยิ้ม แบคฮยอนเคยขัดขืนเขาได้
แต่ก็แค่บางเรื่องเท่านั้นแหละ
ชานยอลปลดกระดุมกางเกงอย่างไม่เร่งรีบนัก ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าอวดกล้ามหน้าท้องที่เรียงตัวสวยอย่างที่แบคฮยอนไม่มี น่าเสียดายที่คุณหนูพยอนไม่ได้เห็นมันในเวลานี้เพราะอีกฝ่ายเอาแต่มุดอยู่ในผ้าห่ม
หัวใจที่เพิ่งสงบลงจากศึกแสนหวานเมื่อครู่กำลังทำงานหนักอีกครั้งเมื่อผืนเตียงยวบลง เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอไม่ใกล้ไม่ไกล ก่อนที่ผ้าห่มที่เป็นป้อมปราการสุดท้ายของแบคฮยอนจะถูกดึงออก
“อื้อ! ปล่อยนะ”
“สร่างเมาแล้วใช่ไหม ดีแล้ว ไม่อยากรังแกคนเมา”
            “แล้วเมื่อกี๊ไม่ได้เรียกว่ารังแกหรือไง!” พยอน แบคฮยอนสร่างเมาแล้วจริง ๆ แต่กว่าจะสร่างก็โดนเขาแกล้งไปแล้วหนึ่งยกโดยไม่มีแรงได้ต่อปากต่อคำ
            ผิวขาวปรากฏสู่สายตาอีกครั้งเมื่อฝั่งเกาหลีพ่ายแพ้จากศึกชิงผ้าห่ม ฝั่งเซี่ยงไฮ้เองก็ไม่ได้ใจดีปล่อยให้เหยื่อหนีไปเสียก่อน ต้นขาขาวเนียนถูกรั้งให้พาดไว้ข้างสะโพกสอบ ชานยอลสอดหน้าขาเข้าไปจนความรุ่มร้อนแนบไปกับร่างกายเล็ก ก่อนจะโน้มกายลงไปป้อนจูบให้เด็กแสบอีกครั้ง
            “อือ” แบคฮยอนดันอกของชานยอลออกในช่วงแรก แต่กลับต้องเลื่อนมือไปเกาะเกี่ยวลาดไหล่กำยำเอาไว้เมื่อปลายลิ้นร้อนบุกรุกเข้าสู่โพรงปากนุ่มอีกครั้ง เมื่อถูกช่วงชิงลมหายใจหนักเข้าลิ้นเล็กก็เริ่มเรียนรู้ที่จะขยับรับสัมผัสอย่างช้า ๆ และคนสอนก็ใจเย็นพอที่จะปล่อยเวลาให้เด็กน้อยได้ทำความรู้จักกับรสจูบก่อนจะนำไปสู่บทเรียนที่หนักกว่า
            ขนอ่อนลุกชันยามที่ฝ่ามือหยาบลูบไล้ต้นขาด้านใน ภายในช่องท้องวาบหวิวจนสะโพกเล็กขยับไปมาเพื่อระบายความอึดอัด ทว่ามันกลับเป็นการไปกระตุ้นบางสิ่งที่แนบชิดอยู่กับช่องทางด้านหลังให้แข็งเกร็งมากขึ้นกว่าเดิม
            “อะ...เดี๋ยวก่อน”
            “ไม่เดี๋ยวแล้ว”
            “ชานยอลเรา...อื้อ!” แบคฮยอนหลับตาปี๋เมื่อยอดอกทั้งสองข้างถูกสะกิดพร้อมกันด้วยปลายลิ้นและปลายนิ้ว ไล้เลียและบีบคลึงจนมันชูชันสู้มือก่อนที่ริมฝีปากหยักจะลากไล้ไปตามผิวกายหอม กลิ่นแป้งเด็กจาง ๆ ยังคงติดจมูกชานยอลไปทั่วทุกสัดส่วน
            แกนกายเล็กถูกปลุกปั่นขึ้นอีกครั้ง แต่ในครั้งกลับทรมานแบคฮยอนมากกว่าเดิมเมื่อลิ้นร้อนแตะลงบนช่องทางด้านหลัง ร่างกายของแบคฮยอนเต้นตุบ ๆ จนปวดหัวไปหมด เขากำลังถูกกลั่นแกล้งทั้งด้านหน้าและด้านหลังไปพร้อม ๆ กันจนอยากจะให้ชานยอลช่วยหยุดมันเสียที
            “อ...อะ” สะโพกเล็กกระตุกทันทีเมื่ออีกฝ่ายผละใบหน้าออกแล้วแทนที่ด้วยก้านนิ้วยาวที่ถูกสอดใส่เข้าไปในช่องทางเพื่อเตรียมความพร้อม สีหน้าเหยเกของคุณหนูตัวแสบทำให้ชานยอลอดเห็นใจไม่ได้ แต่ตัวเขาเองก็แทบจะเย็นไม่ไหวแล้วเช่นกัน
            “เจ็บหรือเปล่า”
            “ม มันอึดอัด...อื้อ อย่า” กลีบปากแดงเจ่อไม่มีโอกาสได้ร้องท้วงอีกเมื่อคนตัวสูงกว่าประทับจูบลงมาอีกครั้ง ดูดคลึงริมฝีปากเหมือนรู้ว่าจะทำให้แบคฮยอนเคลิ้มไปกับมันได้มากที่สุดจนลืมสิ่งที่กำลังรุกรานร่างกายช่วงล่าง
            แล้วเขาก็ได้รู้ว่าความอึดอัดที่เกิดขึ้นมันมากเกินกว่าจะดึงความสนใจของแบคฮยอนไปได้
            ดวงตาเรียวเล็กฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำตาเมื่อนิ้วที่สามสอดแทรกเข้าไปภายในช่องทางอุ่นร้อนที่เริ่มบีบเกร็งตอบรับสัมผัส เด็กน้อยของเขาเอียงใบหน้าเข้าซบซอกคอ กลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้คนเดียวจนชานยอลต้องจูบขมับปลอบอยู่ครู่หนึ่ง ในขณะเดียวกันปลายนิ้วก็ยังขยับเข้าออก ถ้าหากเขาใจอ่อนตั้งแต่ตอนนี้ แบคฮยอนอาจต้องเจ็บยิ่งกว่าเดิม
            “ฮึก..”
            “อดทนนะตัวแสบ”
            “เราจะฟ้องคุณป๊า”
            “เอาเลย”
            “ฟ้องม๊าด้วย อะ..อือ” แม้แต่ในตอนที่กำลังเสียเปรียบก็ยังจะมีแรงขู่เขาจนได้ กลีบปากแดงช้ำถูกรุกรานย้ำ ๆ อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ทวีคูณยิ่งกว่าเมื่อครู่จะเกิดขึ้น
น้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงมาแตะผิวแก้ม แล้วมันก็หายไปเมื่อคนใจร้ายโน้มตัวลงมาจูบซับ เสียงโวยวายตะกุกตะกักกลับกลายเป็นเสียงสะอื้นแผ่วเบาคลอไปกับเสียงปลอบทุ้ม ๆ ที่ใบหู ร่างกายช่วงล่างที่สอดประสานกันยังคงค้างอยู่อย่างนั้นเพราะชานยอลกลัวว่าเด็กพยศจะร้องไห้จ้าไปเสียก่อน
“อย่าเกร็งนะ”
“ชานยอลไม่ได้เป็นเราจะไปรู้อะไร! อ้ะ” เผลอกระทุ้งกายใส่เด็กพยศจนอีกฝ่ายหลุดครางออกมาทั้งน้ำตา แบคฮยอนหน้าแดงก่ำ กัดริมฝีปากแน่นจนชานยอลต้องส่งมือไปบีบคลึงแก้มให้ผ่อนคลาย ความอึดอัดช่วงล่างไม่ลดลงเลยซ้ำยังเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อคนที่ต้องอดทนรออย่างใจเย็นเริ่มเก็บกักอารมณ์ไม่ไหวเช่นกัน “อื้อ เราเจ็บ อะ...”
“ขอโทษ เสร็จแล้วจะดูแลจนกว่าจะหายเจ็บเลย” ท่อนแขนแกร่งสอดช้อนใต้ข้อพับรั้งท่อนขาขาวให้เปิดรับตัวตนของเขาได้ลึกมากขึ้น สะโพกสอบค่อย ๆ สวนกายเข้าไปช้า ๆ เพราะคุณหนูตัวแสบยังคงเกร็งไปทั้งตัวจนความลำบากมาตกอยู่ที่เขา
แก้มก้นขาวถูกบีบคลึงพร้อมกับแกนกายเล็กที่ถูกรูดรั้งอีกครั้ง อารมณ์ถูกปลุกปั่นทุกทางจนแบคฮยอนทำได้เพียงเกาะต้นแขนของชานยอลเอาไว้จิกปลายนิ้วระบายอารมณ์
“อ้ะ...อะ” เสียงครางหวานหูเริ่มขึ้นเมื่อความจุกเสียดตรงช่วงท้องแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน ปลายเท้าเล็กจิกเกร็งยามที่อีกฝ่ายความแข็งแกร่งเข้ามาภายใน แถมร่างกายของเขาก็ยังตอบรับเป็นจังหวะจนปาร์ค ชานยอลกดยิ้ม “อ อย่ายิ้มนะ”
“ชอบแล้วใช่ไหม”
“ไม่ อื้อ! ไม่ชอบ”
“เดี๋ยวจะทำให้ชอบเอง”
“อะ..อ้า” หยาดเหงื่อผุดขึ้นแทบจะทั่วตัว แผ่นอกเล็กหอบสะท้านพยายามอย่างยิ่งที่จะกอบโกยอากาศเข้าปอดเมื่อชานยอลเร่งจังหวะให้ถี่เร็วยิ่งขึ้น
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้องนอนภายในเพ้นท์เฮาส์สุดหรู บนเตียงขนาดคิงไซส์กำลังถูกจับจองด้วยร่างสองร่าง คนหนึ่งนอนครางเสียงหวาน แม้ในใจจะตัดพ้อต่อว่าที่เขารังแก แต่ร่างกายกลับตอบสนองอย่างเต็มใจ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนให้บทรักครั้งนี้ไปถึงปลายทาง
คนตัวสูงกว่าโน้มตัวลงไปกดจูบข้างแก้มใสที่ชื้นเหงื่อจากกิจกรรมบนเตียง กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของแบคฮยอนยิ่งกระตุ้นให้เขาสวนสะโพกเข้าหาร่างกายเล็กมากขึ้นกว่าเดิม ช่วงเอวคอดถูกบีบเค้นจนเกิดรอยแดงจากฝ่ามือบนผิวขาว
“อ่าห์...” แบคฮยอนเผลอปรือตาขึ้นมองยามที่เสียงทุ้มหลุดครางขึ้นมาข้างหู ช่างเป็นน้ำเสียงลามกที่ไม่น่าฟังเลยจริง ๆ แต่เขากลับชอบมันที่สุดในเวลานี้
กล้ามเนื้อหน้าท้องเสียดสีไปกับแกนกายเล็กในทุกจังหวะที่สอดใส่เข้ามาจนส่วนปลายเริ่มปริ่มไปด้วยแรงอารมณ์อีกครั้ง สะโพกขาวขยับตอบรับทุกสัมผัส หัวกลม ๆ สั่นคลอนเมื่อจังหวะที่เร็วอยู่แล้วยิ่งเร็วมากขึ้นไปอีก
อารมณ์และความต้องการพุ่งพล่านตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แบคฮยอนเอื้อมแขนขึ้นไปกอดรอบคอของชานยอลเอาไว้แน่น ในขณะที่สะโพกถูกฝ่ามือใหญ่ยึดเอาไว้เพื่อสวนกายเข้ามาถี่เร็ว
“อะ..อะ อ๊า”
จนกระทั่งห้วงอารมณ์วาบหวามถูกปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สอง
และบางส่วนจากใครอีกคนไหลหลั่งเข้าสู่ภายในช่องทางอ่อนนุ่มที่เริ่มบอบช้ำ
ชานยอลแช่ตัวเองเอาไว้อยู่พักหนึ่งก่อนจะกดปลายจมูกลงที่ข้างแก้มของคุณหนูพยอนที่วันนี้ยอมเป็นเด็กดีของเขาคนเดียว แบคฮยอนเผยอปากหอบหายใจแต่ก็ยังไม่วายโดนขโมยจูบเบา ๆ ให้ได้ลืมตามองคาดโทษ
“อ...อือ” เผลอหลุดครางเสียงแผ่วเมื่อปาร์ค ชานยอลถอนกายออกจากตัวเอง ชายหนุ่มร่างสูงนิ่งค้างไปอยู่พักหนึ่งจนแบคฮยอนเริ่มขัดเขิน “ม มองทำไม เอาผ้าห่มคืนเรามาเลยนะ”



มีต่ออีกนิดนึงนะคะ กลับไปอ่านที่เด็กดีได้เล้ย -> CLICK

Sunday, 14 February 2016

[CUT SCENE] C's BRIDE - XXIX














            “ห..หยุดก่อนครับ ผมยังนวดไม่เสร็จ อื้อ...” ทั้งเสียงทั้งมือไม้สั่นไหวไม่ต่างจากก้อนกำปั้นในอกเมื่อขาอ่อนทั้งสองข้างถูกรุกรานด้วยฝ่ามือหยาบ 

            พยายามยกมือดันหลังเขาออกแต่เหมือนกับว่ามันเป็นการเรียกร้องให้เขาหันกลับมาสนใจกันเสียมากกว่า คุณชานเลี่ยเอี้ยวตัวกลับมากดจูบลงบนริมฝีปากของผมแบบไม่ปล่อยโอกาสให้ตั้งตัว ฝ่ามือยังคงไล่บีบเค้นขาอ่อนเลยไปจนถึงสะโพก

            เขาปั่นป่วนความรู้สึกกันด้วยจูบร้อนๆที่ไร้ซึ่งความดุดัน มีแต่ความอ่อนหวานที่น่าลุ่มหลงให้ยอมโอนอ่อนตามเขาไป แต่ผมรู้...ว่าภายใต้ความเงียบสงบแสนหวานนี้มีพายุลูกใหญ่ที่พร้อมจะโหมกระหน่ำในค่ำคืนนี้

            เขาผละริมฝีปากออกไปแล้วหมุนตัวกลับไปนั่งพิงขอบอ่างอีกฝั่งตามเดิม ทั้งเนื้อทั้งตัวร้อนวูบวาบไปหมดเมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังอยู่ในท่าทางที่เปิดโอกาสให้เขาสำรวจร่างกายเปลือยเปล่าได้ตามใจชอบ ยังไม่ทันที่ผมจะได้ขยับขาเข้ามาปกปิดร่างกายไว้เช่นเดิมก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ คุณชานเลี่ยดึงรั้งข้อเท้าทั้งสองข้างไว้แล้วกดฝ่าเท้าให้แนบลงบนอกด้านซ้ายของเขา

            “ให้แบคฮยอนหมดแล้วนะ ทั้งตัวแล้วก็ตรงนี้” เขาวางฝ่ามือทับบนหลังเท้าแล้วกดยิ้มให้ผม เป็นวินาทีที่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ที่มีแต่ความตื้นตันใจ ความรัก และปาร์ค ชานเลี่ย

            “ฮ เฮียเลี่ยปล่อยก่อนนะครับ มันไม่ดี” 

            “มันดีที่สุดแล้วที่เฮียได้รักแบคฮยอน” จู่ๆขอบตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อเขาก้มหน้าลงกดจูบลงบนปลายนิ้วโป้งเท้าทั้งสองข้าง “รักจริงๆนะคนนี้น่ะ”

            ผมค่อยๆชักฝ่าเท้าทั้งสองข้างออกแล้วโผตัวเข้าไปหา นั่งคุกเข่ายกสองแขนคล้องคอคนตรงหน้าไว้ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผาก ไล่ลงมาที่จมูกโด่งแสนซุกซน และจบลงที่ริมฝีปากร้ายกาจ

            “ผมก็รักเฮีย อะ...” 

            และในตอนนี้กลายเป็นผมที่ถูกจับให้นั่งหันหลังพิงอกของเขาเสียแทน ความร้อนรุ่มที่ดุนดันสะโพกอยู่ใต้น้ำยิ่งขับให้ข้างแก้มแดงเรื่อจนคนตัวโตกว่าต้องโน้มใบหน้าเข้ามาหอมเข้ามาฟัด

            “ไม่ต้องอาบน้ำแล้วมั้ง” เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหูก่อนจะงับเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว 

            ขาทั้งสองข้างตั้งชันขึ้นอย่างน่าอายด้วยฝ่ามือใหญ่ที่เป็นฝ่ายจัดแจงท่าทางให้สะดวกต่อการรังแก ผิวต้นคอขาวแทบจะแดงเป็นปื้นเพราะไรหนวดตรงปลายคางถูไถไปมา เสียงจูบและดูดดึงผิวเนื้อดังขึ้นข้างหูทำให้ผมหลับตาแน่นกลบความเขินอาย เผลอร้องครางเบาๆยามที่เขาแต่งแต้มร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของไว้ที่ลาดไหล่

            ฝ่ามือหนาข้างที่ใช้รวบเอวลูบไล้ขึ้นมาแตะยอดอก ใช้ปลายนิ้วบีบคลึงจนร่างกายกระตุกเมื่ออารมณ์ทะลึ่งกำลังถูกปลุกขึ้น ในขณะที่มืออีกข้างที่ว่างก็ไล้ต่ำลงไปตรงกลางลำตัว ขยับเข้ากอบกุมชักนำไปอย่างช้าๆ

            “อ...อื้อ” 

            ผมบีบนิ้วลงบนท่อนแขนของเขาเพื่อระบายอารมณ์วาบหวาม เงยหน้าพิงศีรษะลงกับไหล่หนาพลางเผยอปากหอบหายใจเมื่อเขาเร่งจังหวะเร็วขึ้นทั้งสองมือ ยิ่งถูกเร่งเร้ามากขึ้นเท่าไหร่เสียงครางและเสียงหอบก็ถี่กระชั้นมากขึ้นเท่านั้น

            จังหวะหนึ่งที่ผมเกือบสำลักอากาศเมื่อเขาป้อนจูบลงมาทั้งๆที่มือสองข้างก็ยังรังแกกันไม่เลิก ทั้งกลีบปากและพวงแก้มแดงเรื่อดึงดูดสายตาของคนเอาแต่ใจเอาไว้จนต้องไล้แตะปลายจมูกกับริมฝีปากวนไปเวียนมาไม่ห่าง

            “อ๊ะ อา...” 

            “ไม่ได้ช่วยตัวเองเลยเหรอหืม” 

             ผมหลับตาเอียงหน้าซบไปกับไหล่ซ้ายของเขาเมื่อโดนกดจูบที่ปลายคางพร้อมคำกระซิบบอกว่าคนเก่ง  ความต้องการถูกปลดปล่อยออกไปผ่านการชักนำที่แสนร้ายกาจของคุณชายสองจนแทบหมดเรี่ยวแรง

            “...ใครจะไปทะลึ่งแบบเฮีย” เถียงเสียงแผ่วในขณะที่ร่างทั้งร่างถูกช้อนขึ้นจากอ่างอาบน้ำ ร่างกายเปลือยเปล่าถูกห่มทับด้วยผ้าเช็ดตัวผืนนุ่ม จะมีก็แต่คนลามกคนนั้นที่เดินโป๊ออกจากห้องน้ำพาตัวผมขึ้นเตียง

            ผมรีบม้วนตัวเข้าหาผ้าห่มอีกชั้นหนึ่งเพราะอุณหภูมิภายในห้องนอนค่อนข้างเย็นกว่าในห้องน้ำ อีกนัยหนึ่งก็เพราะต้องการหลบสายตาคนโป๊ที่ยืนท้าฟ้าท้าดินอยู่ปลายเตียงนั่นแหละ

            “ไม่รอดแล้วรู้ตัวใช่ไหม”

            “...”

            “หลังจากนี้ถึงจะร้องไห้งอแงเฮียก็ไม่หยุดให้เรานะ” 

            ผ้าห่มที่ใช้คลุมหัวถูกดึงออกดด้วยฝีมือของคนที่กดกายทาบทับลงมา ร่างกายของผมกับเขามีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกั้นเอาไว้ แก้มทั้งสองข้างถูกกอบกุมช้อนให้ขึ้นมาสบนัยน์ตาดุแบบเลี่ยงไม่ได้

            “จ จะไม่เห็นใจกันหน่อยเหรอครับ”

            “ถ้าแบคฮยอนไม่ชอบก็คงปฏิเสธเฮียไปตั้งแต่เริ่มแล้ว”

            ดูเขาพูดเข้าสิ!
 
            “งั้นผมไม่...”

            “ก็บอกแล้วไงว่าไม่รอด” รอยยิ้มร้ายกาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงเพื่อรองรับจูบของจริงที่ไม่ได้อ้อยอิ่งเหมือนในห้องน้ำ 

            คุณชานเลี่ยดูดคลึงกลีบปากอยู่ครู่เดียวก็สอดแทรกปลายลิ้นเข้ามาปั่นป่วนภายในโพรงปาก กวาดต้อนไล้เล็มเก็บน้ำหวานจนผมจิกนิ้วลงบนหลังคอ ร่างกายที่ถูกเตรียมพร้อมไปแล้วครั้งหนึ่งถูกจุดติดได้ง่ายกว่าเดิมเพียงแค่เขาเค้นคลึงผิวกาย

            ฝ่ามือใหญ่ปัดป่ายผ่านยอดอกไล้ลงไปบีบเค้นช่วงเอวก่อนที่ริมฝีปากร้อนรุ่มจะกดสัมผัสลงมาครอบครองดูดดึงจนเกิดเสียงน่าอาย 

            “อื้อ...เบาๆ” 

            “เจ็บเหรอ”

            “ผมแค่ยัง...ไม่ชิน อ้ะ...”

            “เดี๋ยวจะทำให้ชินเอง” 

             เขาก้มลงไปยุ่มย่ามกับยอดอกทั้งสองข้างอีกครั้งโดยที่ยอมใจดีเบาแรงดูดคลึงลงเพียงเล็กน้อย ผมเผยอริมฝีปากกอบโกยอากาศเข้าปอดอยู่ได้เพียงไม่นานนัก ร่างกายส่วนล่างก็ถูกรุกรานจนปลายเท้าจิกเกร็งลงกับผืนเตียง

            สองขาตั้งชันเปิดรับร่างกายใหญ่โตให้สอดแทรกเข้ามาบดเบียดโดยไม่รู้ตัว แกนกายใหญ่ที่ขยายขนาดเต็มที่ถูไถอยู่กับบั้นท้ายไปมาเหมือนจะยั่วอารมณ์กันให้ซ่านเสียวมากขึ้นไปอีก ท่อนแขนหนั่นเนื้อย้ายมาช้อนเข้าใต้ข้อพับขาพร้อมกับสัมผัสนุ่มหยุ่นจากริมฝีปากไล่กดจูบลงมาจนถึงหน้าท้อง ผมหอบหายใจถี่ เกร็งไปหมดทั้งร่างกายยามที่เขาสอดปลายลิ้นเข้ามาไล้วนรอบสะดือ

            รสสัมผัสครั้งนี้เร้าอารมณ์ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ อาจเพราะความห่างกับเรื่องบนเตียงถึงสามสี่เดือนยิ่งทำให้เราอยากเติมเต็มให้กันและกันมากกว่าที่เคย หรืออาจเพราะไรหนวดร้ายกาจที่ถูไถไปทั่วทุกตารางนิ้วที่เขาลากริมฝีปากพาดผ่าน ส่วนกลางลำตัวถูกเขาครอบครองปลุกปั่นด้วยโพรงปากอีกครั้ง เพียงแค่รูดรั้งและละเลงปลายลิ้นลงที่ส่วนปลายผมก็แทบจะปลดปล่อยครั้งที่สองอยู่รอมร่อ

            “อะ...อย่าแกล้งผม” ร้องท้วงขึ้นอย่างลืมอายเมื่อสัมผัสร้อนรุ่มละออกไปในจังหวะที่อารมณ์เกือบจะแตะถึงขีดสุด

            “เดี๋ยวจะแกล้งให้ร้องเลย” 

            “ปล่อย...ฮื่อ” 

             ผมช้อนตามองคนด้านบนตาปรอย น้ำสีใสเคลือบไปทั่วขอบตาเมื่ออารมณ์วาบหวามถูกเบรกไว้ไม่ยอมให้ปลดปล่อย แขนทั้งสองข้างที่จะส่งไปช่วยตัวเองก็ถูกรวบกดไว้เหนือหัว รู้สึกปวดหนึบไปทั้งร่างแต่เขาก็ไม่ยอมเห็นใจกันสักที 

            “รอก่อนสิเด็กดี” 

            จูบปลอบใจถูกป้อนลงมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากก้านนิ้วเย็นๆที่สอดแทรกเข้ามาภายในช่องทางด้านหลัง ผมสะดุ้งสุดตัว เบี่ยงหน้าหนีจูบของเขาเพื่อเผยอปากหายใจ ร่างกายบีบรัดสิ่งแปลกปลอมถี่จนเขาต้องคอยกระซิบข้างหูให้ค่อยๆหายใจลึก

            ความรู้สึกอึดอัดในทีแรกเริ่มหายไปเมื่อคุณชานเลี่ยค่อยๆสอดนิ้วเข้าออกสร้างความคุ้นชินหลังจากที่ห่างหายกันไปนานอย่างใจเย็นจนกระทั่งร่างกายของผมสามารถเปิดรับก้านนิ้วทั้งสามของเขาไว้ได้จนหมด 

            “อ...อา” 

            ร้องครางเสียงแผ่วเมื่อนิ้วทั้งสามถูกถอนออกไป ผมนอนหมดสภาพอยู่บนเตียง ไม่มีแม้แต่แรงที่จะขยับเขยื้อนไปไหนด้วยอารมณ์คั่งค้างที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย คุณชานเลี่ยเอื้อมตัวไปเปิดลิ้นชักข้างหัวเตียงก่อนจะหยิบบางอย่างขึ้นมามองอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หันกลับมาสบตากับผม

            “อยากให้ใช้มันไหม”

            “...” ผมมองซองในมือของเขาพลางกัดริมฝีปากแน่น 

            รู้ความหมายดีว่าทำไมเขาถึงถามขึ้นมาทั้งที่ปกติก็เอาแต่เดินหน้ากอดฟัดจนหนำใจ เพราะเขากลัว...และผมก็กลัว

            กลัวว่าจะสร้างอีกชีวิตหนึ่งขึ้นมาแล้วปกป้องเขาไว้ไม่ได้อีก

            ผมค่อยๆเอื้อมมือสั่นๆไปดึงซองถุงยางอนามัยออกจากมือของเขา แวบหนึ่งที่เห็นแววตาคมกริบสลดลงไปแต่เพียงครู่เดียวก็กลับมาดังเดิม เหมือนเขาตั้งใจที่จะยอมรับการตัดสินใจของผมแม้ว่าตัวเองจะยังรู้สึกเสียดาย

            ออกแรงดันคนตัวโตให้พลิกกลับไปเป็นฝ่ายนอนลงบนเตียงแล้วพยุงร่างกายอ่อนปวกเปียกของตัวเองนั่งทับช่วงเอวของเขาเอาไว้ เลียริมฝีปากของตัวเองด้วยความประหม่าอายที่ทำใจกล้าขึ้นมานั่งทับความร้อนรุ่มยั่วอารมณ์ของเขาขนาดนี้ 

            ผมกำซองสี่เหลี่ยมในมือไว้แน่นก่อนจะโน้มกายลงประกบปากกับคนที่ยังมึนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของผม แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นคุณชานเลี่ยก็เริ่มปล่อยตัวไปตามเกมส์เด็กๆ ฝ่ามือหนายกขึ้นมาประคองสะโพกพลางบีบเค้นให้มันถูไถไปกับแกนกายใหญ่โต ส่วนริมฝีปากก็ตอบรับจูบจนกลายเป็นผมเองที่ต้องทุบอกให้เขายอมเบาจังหวะลง

            ได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะในลำคอยามที่ผมขบกัดลาดไหล่ของเขาจนขึ้นรอยแดงเป็นปื้น แววตาของเขาดูชอบใจกับการกระทำนี้ไม่หยอก เล่นเอาผมหน้าแดงวาบยามที่เผลอช้อนตาขึ้นมาสบกับคนที่นอนมองอยู่ก่อนแล้ว 

            หลับหูหลับตาเลียนแบบการจูบของเขาไล่ไปถึงลอนกล้ามแข็งแรงตรงหน้าท้อง เผลอใช้ปลายนิ้วลูบไล้อย่างชอบใจแล้วก็ต้องหลุดยิ้มเมื่อคนใต้ร่างหดเกร็งหน้าท้องเบาๆด้วยความเสียวซ่าน

            “ใครสอนให้ทำตัวแบบนี้”

            “ฝีมือเฮียชานเลี่ยทั้งนั้นเลยครับ” ผมบ่นอุบอิบหลุบตาหนีแล้วค่อยๆถดตัวไปนั่งทับหน้าขา
            “เดี๋ยวเถอะ...แบคฮยอนจะทำอะไร”

            “ผม...ทำให้นะ” ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปากห้าม ลำกายใหญ่โตก็ถูกปลายลิ้นเล็กไล้เลียเหมือนลูกแมวที่กำลังดื่มนม ผมทำมันอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เอาใจเขาขนาดนี้ 

            “ไม่ต้องกลัว ระวังฟันด้วยนะแบค...อ่า”

            โพรงปากเปิดรับความรุ่มร้อนเข้าไปปรนเปรอพร้อมกับสองมือที่ช่วยรูดรั้งในส่วนที่ไม่สามารถเอาใจได้ด้วยปากโดยไม่รีรอให้เขาพูดจบ เสียงซวบซาบน่าอายดังขึ้นพร้อมกับพวงแก้มกลมทั้งสองข้างที่เจือสีแดงเข้ม ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ในสายตาของปาร์ค ชานเลี่ยตั้งแต่ต้น 

            จนกระทั่งเสียงทุ้มครางออกมาเบาๆให้ได้ยิน ทำให้ผมยิ่งได้ใจเร่งเร้าเพิ่มจังหวะปรนเปรอจนคุณชานเลี่ยดันตัวขึ้นมาคว้าต้นคอของผมไปกดจูบแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว

            “คืนนี้ตายแน่ๆแบคฮยอน” 

            ผมเม้มปากแน่นแล้วดันไหล่เขาให้นอนราบลงไปอีกครั้ง ความขลาดเขินยังมีอยู่เต็มอกหากแต่อารมณ์วาบหวามภายในผลักดันให้ผมกระทำบางสิ่งออกมาอย่างลืมอาย

            ปลายซองสี่เหลี่ยมถูกฉีกออกด้วยเขี้ยวเล็กๆและแรงดึง ถุงยางอนามัยหล่นปุลงบนลอนหน้าท้อง แน่นอนว่าคุณชานเลี่ยมองตามทุกการกระทำด้วยความนิ่งเงียบ ผมหยิบมันขึ้นมาแล้วสวมลงบนแกนกายรุ่มร้อนของเขา

            “อะ...อือ” 

            ขยับกายขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกดลงบนความแข็งเกร็งที่พร้อมใช้งาน น้ำตารื้นขึ้นมาเมื่อถูกความเจ็บแปลบโจมตีช่องทางด้านหลัง คุณชานเลี่ยคอยบีบนวดสะโพกให้ผ่อนคลายกว่าเดิมจนกระทั่งผมสามารถรองรับความต้องการของเขาได้จนหมด

            “ซ่าตั้งแต่ยกแรกแบบนี้ยกต่อไปเดี๋ยวจะซ่าไม่ออกนะคุณนายปาร์ค”

            “อ้ะ...ผมไม่... เฮียอย่าเพิ่งขยับสิครับ...อื้อ” 

            คุณชานเลี่ยไม่ใช่คนใจดี แม้กระทั่งในเวลานี้ที่ผมร้องขอให้เขาช่วยเบาจังหวะลงก็ยังไม่ยอมฟัง คนตัวโตจับสะโพกไว้จนเต็มมือแล้วกระทุ้งกายเข้าใส่ แม้ว่ามันจะไม่ได้รุนแรงสร้างบาดแผลอะไรให้กับร่างกายของผม แต่เขาไม่รู้เลยหรือไงว่าแบบนี้มันปั่นป่วนความรู้สึกจนแทบบ้า

            “อ๊ะ...อะ” เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเข้าสู่โสตประสาท ผมรับรู้เพียงแค่ความต้องการของเขาที่คอยกดย้ำเข้ามาจนต้องเผยอปากครางแบบควบคุมไม่ได้ 

            ความคิดถึง ความโหยหา ความรัก ความรู้สึกถูกเติมเต็มด้วยภาษากายจนล้นหัวใจ นอกเหนือไปกว่านั้นยังได้ยินคำบอกรักซ้ำๆข้างหูยามที่ผมหมดเรี่ยวแรงจะส่งตัวบนร่างกายของเขาจนต้องเอนลงซอนซบกับแผงอกกว้าง

            คุณชานเลี่ยพลิกตัวให้ผมเป็นฝ่ายนอนราบไปกับเตียงก่อนจะสอดใส่ความรุ่มร้อนเข้ามาใหม่อีกครั้ง กระแทกกระทั้นจนเส้นผมกระจายยุ่งเหยิงไปทั่วหมอน ช่องทางด้านหลังตอดรัดความแข็งแกร่งเป็นจังหวะพร้อมกับสะโพกที่แอ่นรับแรงกระแทกของเขา

            “อือ...เฮียเลี่ย” ผมกอดรอบคอของเขาไว้แน่นเมื่อจังหวะถูกเร่งรัวเร็วขึ้นอีกครั้ง ส่วนปลายแกนกายที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยเริ่มปวดหนึบจนแทบทนไม่ไหว

            “เรียกชานเลี่ยได้ไหม”

            “...ชาน อึก...ชานเลี่ย เบาๆ” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุให้เขาทำ ยิ่งบอกให้เบาๆคุณชานเลี่ยก็ยิ่งสวนสะโพกเข้ามาจนร่างกายสั่นคลอน 

            ผมหลับตาปี๋เมื่อความซ่านเสียวถูกป้อนให้อย่างต่อเนื่อง ริมฝีปากเริ่มบวมแดงจากแรงกัดแต่แล้วก็ต้องผละออกเมื่อคนเอาแต่ใจสังเกตเห็นแล้วโน้มตัวกดจูบลงมาโดยที่ร่างกายส่วนล่างยังไม่หยุดขยับ ปลายเท้าจิกเกร็งกับผืนเตียงจนแทบชา ท้องทะเลที่เงียบสงบเมื่อตอนแรกแปรเปลี่ยนเหมือนพายุที่โหมกระหน่ำ และผมเป็นเพียงต้นไม้อ่อนแรงต้นหนึ่งที่พร้อมจะปลิวไปกับพายุลูกใหญ่ด้วยความเต็มใจ 



“ด เดี๋ยวครับ...ถอยก่อน” 

และในจังหวะที่เขากระแทกกระทั้นเข้ามาจนผมสามารถรับรู้ได้ว่าภูเขาไฟใต้ทะเลลูกใหญ่กำลังจะปะทุในไม่ช้า สติที่ยังพอหลงเหลืออยู่ก็ผลักดันให้เอ่ยปากร้องขอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

 
            “จะเล่นอะไรอีก เฮียไม่ไหวแล้วนะแบคฮยอน” 

            “อะ...อื้อ ถอย” 

            ละมือออกจากต้นคอแกร่งไปดันหน้าท้องให้เขาถอยออก ในทีแรกคุณชานเลี่ยก็ไม่ยอมฟัง เอาแต่สอดใส่เข้ามาแกล้งกันให้ร้องเสียงหลงอยู่ใต้ร่างกายของเขาจนผมต้องช้อนตามองออดอ้อนเขาให้ใจอ่อน

            มือสั่นๆถูกส่งไปแตะลงบนท่อนเนื้อร้อนที่ถูกครอบคลุมด้วยถุงยางอนามัย ปลายนิ้วสะกิดขอบยางแล้วดึงมันโยนทิ้งไปที่ไหนสักที่บนพื้นข้างเตียงเรียกสายตาชวนสงสัยจากคุณชายสองได้เป็นอย่างดี

            “ทำไม”

            “...”

            “นี่แกล้งกันเหรอ” เขาคร่อมตัวลงมาเท้าแขนลงกับเตียง ส่งสายตากดดันมาให้ผม คิ้วเข้มขมวดแน่นจนน่าเอ็นดู 


ไม่อยากจะบอกเขาออกไปเลยว่า...


            “ครับ...ฮ เฮียเลี่ย อื้อ!

            “นางฟ้าตัวน้อยของเราต้องดีใจแน่ๆที่น้องกำลังจะได้มาอยู่กับป๊าม๊าแล้ว”

            “ช้าๆ...ผมหายใจไม่ทัน อะ...อ๊า”

 
มีต่ออีกนิดนึงนะคะ กลับไปอ่านที่เด็กดีเลย -> CLICK