“อ่ะ...”
ร่างทั้งร่างกระตุกเมื่อความอุ่นชื้นแตะลงบนยอดอกผ่านเสื้อเนื้อบาง ร่างกายถูกดันให้นอนราบลงไปกับโต๊ะทำงานตัวใหญที่ก่อนหน้านี้ผมจำได้ว่ามันมีแต่แฟ้มเอกสารวางซ้อนกันเต็มไปหมด
หากแต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า...
ท่อนขาถูกอีกฝ่ายช้อนขึ้นและออกแรงดึงให้ตัวของผมเลื่อนขยับมาแนบติดหน้าขาของเขาอีกครั้งในขณะที่เจ้าของกลุ่มผมสีเทากำลังฟอนฟัดร่างกายท่อนบนทั้งที่ยังไม่ได้ถอดเสื้อ
อารมณ์แปลกๆเกิดขึ้นหลังจากที่เขาทำเพียงแค่ลากปลายลิ้นเลียวนรอบๆพร้อมกับฝ่ามืออีกข้างที่ใช้ลูบไล้ไปทั่วร่างกาย
ผมจิกปลายนิ้วลงบนไหล่แน่น อารมณ์ที่เพิ่งถูกจุดขึ้นมาขับให้ยอดอกทั้งสองข้างนูนขึ้น
และเพราะเสื้อบางๆตรงแผ่นอกที่เปียกชื้นเป็นวงเพราะถูกไล้เลียยิ่งทำให้เขาสามารถเห็นอะไรๆได้ชัดขึ้นจนเจ้าตัวกดยิ้ม
“พ...พอแล้ว ผมไม่เอา”
“แต่เฮียเอา”
คุณชานเลี่ยเลื่อนตัวขึ้นมาจูบปลายคางของผมเบาๆ
สายตาของเขาอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกจนผมต้องหลับตาเบือนหน้าหนี
พวงแก้มแดงเรื่อเพราะอุณหภูมิในร่างกายเริ่มสูงขึ้น
ความปวดหนึบที่เกิดขึ้นกับช่วงล่างทำให้ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผมเองก็มีอารมณ์แล้วเหมือนกัน...
บ้าจริง
“แต่...ป ประตู อือ...”
ผมเชิดหน้าขึ้นเมื่อเสื้อที่สวมอยู่ถึงถอดออก
เส้นผมสีน้ำตาลทองกระจัดกระจายไปตามพื้นโต๊ะ
ร่างกายแอ่นขึ้นอีกครั้งเมื่อต้องเผชิญกับสัมผัสจากเรียวลิ้นชื้นโดยตรงโดยไม่มีเสื้อผ้ากีดขวางอีกต่อไป
เขาละเลงความซุกซนไปทั่วพร้อมกับแตะจูบไล่ลงมาที่สะดือ ผิวบอบบางตรงแอ่งกลางร่างกายถูกรังแกจนปวดมวนไปทั่วช่องท้อง
“อ้ะ..”
สะโพกของผมถูกมือใหญ่จับยึดให้อยู่ติดกับโต๊ะเมื่อผมเริ่มบิดกายยุกยิกไปทั่วเพราะความเสียวซ่าน
คุณชานเลี่ยกดจูบลงตรงร่องรอยเดิมที่เพิ่งจะจางแต่ยังไม่หายไปไหน
เขากดริมฝีปากเน้นย้ำไปทั่วผิวกาย ให้ผมได้รับรู้
ไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็เป็นของเขา
“อื้อ...เฮีย”
ผมยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเมื่อเสียงน่าอายหลุดรอดออกมาให้เขาได้ใจ
ปลายลิ้นกับริมฝีปากของเขายังคงปลุกปั่นอารมณ์ของผมไปทั่ว
ยิ่งมันขยับเข้าใกล้ความอึดอัดที่อยู่ภายใต้กางเกงมากเท่าไหร่ ร่างกายของผมก็ยิ่งกระตุกมากขึ้นเท่านั้น
“แบคฮยอน อย่าปิดปาก”
เขาเงยหน้าขึ้นมาขมวดคิ้วใส่และจัดการดึงมือของผมให้ออกห่างจากปาก “ถอดเนกไทให้ที”
“ม ไม่”
“หรือจะถอดเข็มขัด?”
ข้อเสนอที่ดูไม่ค่อยมีทางเลือกบังคับให้ผมส่งมือสั่นๆไปแตะเนกไทที่ผมเป็นคนผูกให้เขาเองเมื่อเช้า
ค่อยๆรูดมือลงให้มันคลายออกก่อนจะได้รับจูบหวานๆที่มุมปากเมื่อเนกไทหลุดออกจากช่วงคอของบอสใหญ่
สายตาคมกริบจดจ้องทุกการกระทำจนความเขินอายตีรวนขึ้นมากระจุกอยู่บนใบหน้า
ไหล่ของผมสั่นเล็กน้อยเพราะผิวกายท่อนบนเปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้ามาช่วยบดบังจากลมเย็นๆของเครื่องปรับอากาศ
“กลับ...ไปที่บ้านไม่ได้เหรอครับ”
ผมเอียงคอหนีเมื่อเขากดจูบลงมาที่ข้างแก้มขวา ลมหายใจร้อนทอดถอนออกมากระทบใบหน้าให้รู้สึกร้อนรุ่มยิ่งกว่าฤดูร้อน
คำร้องขอของผมถูกละเลยเพราะคุณชานเลี่ยเอาแต่ฟัดผิวของผมจนมันเริ่มแดงเพราะไรหนวด
ผมครางอือในลำคอเมื่อเนื้อสะโพกถูกบีบนวด
ขาทั้งสองข้างพยายามหุบเข้าหากันเพื่อไม่ให้เขาสังเกตเห็นความลามกที่เกิดขึ้นกับร่างกายผม
แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้ดั่งใจเพราะคุณชานเลี่ยเลื่อนตัวลงมาฟัดหน้าท้องของผมอีกครั้ง
จุดอ่อนที่ทำให้ตัวอ่อนปวกเปียกไม่แพ้กับที่ต้นคอทำให้ผมแพ้เขาราบคาบ
เสียงซิปที่ถูกเลื่อนลงทำให้ผมแตะมือลงบนหลังมือของเขาทันที
แต่ก็ถูกจับไปคล้องไว้กับต้นคอเสียแทน
และในจังหวะที่เรียวลิ้นร้อนแตะลงบนแผ่นอกจนร่างกายแอ่นขึ้นเพราะความซ่านเสียว
กางเกงขายาวและชั้นในก็ถูกถอดออกจากร่างกายไปพร้อมกันทั้งหมด
“ขนาดนี้แล้วกลับบ้านไม่ทันหรอก” ฝ่ามือใหญ่จับหัวเข่าของผมให้แยกออกกว้างแนบไปกับช่วงเอวของเขา
บีบเค้นผิวขาวๆตรงโคนขาจนผมต้องหลับตาปี๋ด้วยความอายที่ต้องนอนทอดร่างกายให้เขามองทั้งที่ไฟในห้องทำงานสว่างจ้าขนาดนี้
ก็รอบที่แล้วมีเพียงแค่แสงไฟเลือนลางจากห้องน้ำเท่านั้นที่สาดส่องเข้ามาในห้องนอนมืดสนิท...
“อือ”
ผมขบเม้มริมฝีปากของตัวเองแน่นเมื่อเขาเอาแต่ลากปลายลิ้นวนจูบอยู่ตรงต้นขาด้านใน
เฉียดความอึดอัดทั้งหมดทั้งมวลของผมไปมาเหมือนแกล้งกัน
แถมยังเงยหน้ามาส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้อีก
น่าอายจะแย่อยู่แล้ว!
อารมณ์ร้อนที่จุกเสียดไปหมดจนอยากจะปลดปล่อยเต็มทียิ่งทำให้สมองของผมไม่เหลือสติไว้คิดอะไรอีกแล้ว
มือข้างหนึ่งร่วงหล่นจากต้นคอแกร่งของเขามาแปะอยู่ที่หน้าท้องตัวเองก่อนจะค่อยๆเอื้อมไปหมายจะจับแกนกายที่สั่นระริกนั่นแล้วชักนำให้ตัวเองไปถึงอีกฟากฝั่ง
“มือน่ะอยู่นิ่งๆ”
คุณชานเลี่ยเอ่ยปรามเสียงเข้มพลางจับมือผมไว้ก่อนที่จะได้แตะต้องร่างกายของตัวเอง
เขาจัดการรวบข้อมือของผมทั้งสองข้างด้วยมือใหญ่ๆเพียงข้างเดียวแล้วกดไว้เหนือหัว
ไม่เว้นจังหวะให้ผมร้องท้วง
โพรงปากร้อนชื้นก็ครอบครองโอบอุ้มความต้องการของผมทั้งหมดเอาไว้ ทั้งรูดรั้ง
ดูดดุนด้วยความเร็วที่ไต่ระดับตามความต้องการทำให้ผมหลุดครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“อ อ๊ะ..”
ได้แต่ภาวนาว่าเสียงจะไม่เล็ดรอดผ่านประตูห้องออกไป...
ขาทั้งสองข้างที่แนบอยู่กับช่วงเอวสอบสั่นระริกไปหมด
ปลายเท้าจิกลงกับโต๊ะเนื้อเรียบเพื่อระบายอารมณ์วาบหวาม ฝ่ามือข้างที่ว่างก็ยังช่วยรูดรั้งส่วนโคน
และปลายลิ้นซุกซนช่วยปรนเปรอที่ส่วนปลายจนแผ่นอกกระเพื่อมถี่เร็วเพราะแรงหอบหายใจ
เสียงสวบสาบจากการปรนเปรอช่วงล่างดังเคล้าไปกับเสียงครางจนผมอยากจะมุดหนีความเขินอายเข้าไปอยู่ในลิ้นชักเสียให้ได้
คุณชานเลี่ยเร่งจังหวะเร็วขึ้นเมื่อส่วนปลายแกนกายเริ่มปริ่มน้ำ
สะโพกเผลอขยับรับตามแรงอารมณ์ที่เผลอไผล เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามร่างกายและใบหน้าจนเส้นผมแนบไปกับขมับและข้างแก้ม
คุณชานเลี่ยปล่อยข้อมือของผมให้เป็นอิสระเมื่อเขากลายเป็นคนคุมเกมส์ทั้งหมดบนโต๊ะตัวนี้
กลีบปากสีซีดผละขึ้นมาดูดดุนปากของผมอีกครั้งในขณะที่ปล่อยให้ฝ่ามือเป็นตัวชักนำร่างกายส่วนล่างจนกระทั่งของเหลวสีขุ่นถูกปลดปล่อยออกมาเปรอะหน้าท้องของผมและเสื้อเชิ้ตของเขา
“อ...ฮ เฮียเลี่ย ขอโทษ...ฮื่อ”
ผมยกมือขึ้นปิดหน้าปิดตา รู้สึกอายจนไม่รู้จะพูดยังไง อายที่ยอมให้เขาทำเรื่องแบบนี้ในที่ที่ไม่ใช่ที่ส่วนตัว
อายที่ปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมาจนเลอะเทอะชุดทำงานของเขาไปหมด “อ๊ะ”
ผมหลุดร้องออกมาเมื่อช่วงขาถูกจัดให้พาดลงไปกับลาดไหล่แกร่ง
ปลายนิ้วเรียวกดวนอยู่รอบช่องทางด้านหลังจนร่างกายของผมกระตุกอีกครั้ง
“ร้องดังๆได้นะแบคฮยอน ห้องนี้เก็บเสียง”
เขาพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะลงปลายลิ้นกับช่องทางอุ่นร้อนที่ขมิบถี่รัวเมื่อกำลังถูกรุกราน
มันเป็นความรู้สึกแปลกปนเสียวซ่านจนไม่รู้จะระบายอารมณ์ยังไง
ผมเลื่อนมือไปขยุ้มเส้นผมสีเทาของคุณชานเลี่ยเบาๆ อยากระบายความวาบหวามนี้ลงกับเขาแต่ก็กลัวเขาจะเจ็บตัว
ร่างกายเริ่มถดหนีเมื่อต่อต้านความเสียววูบและมวนท้องไม่ไหวแต่ติดตรงที่ฝ่ามือใหญ่กดเอวไว้ให้อยู่กับที่
เขาไล้เลียรอบช่องทางจนชุ่มก่อนจะสอดปลายลิ้นเข้ามาสร้างความปั่นป่วนในร่างกายของผมให้ร่างกายส่วนหน้าชูชันขึ้นอีกระลอก
“ไม่...ท ที่นี่ อ้ะ”
ผมพยายามเอ่ยท้วงให้เขาเลิกกลั่นแกล้งกันด้วยวิธีนี้
รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องไปหมด
ความรู้สึกของผมเบาหวิวและล่องลอยอยู่ท่ามกลางมวลสีขาวก่อนที่สติทั้งหมดจะถูกเรียกกลับมาเมื่อก้านนิ้วยาวปาดความเลอะเทอะที่หน้าท้องมาช่วยอำนวยความสะดวกในการสอดแทรกเรียวนิ้วเข้าไปจนสุดความยาว
“อะ...ฮ”
ผมแทบสำลักอากาศออกมาเมื่อเขากระทุ้งมือเข้าออกโดยไม่ให้ตั้งตัว
แม้จะรู้สึกอึดอัดร่างกายไปหมดเพราะกำลังถูกกลั่นแกล้ง
ด้านหน้ากำลังเกิดอารมณ์ขึ้นอีกครั้งและด้านหลังกำลังสะกิดความต้องการให้มากกว่าเดิม
แต่ภายในหัวของผมกลับมีแต่หน้าของคุณชานเลี่ย
ผมต้องการเขา...
นิ้วที่สองและสามสอดแทรกตามเข้ามาติดๆ
ปลายนิ้วยาวแตะโดนจุดรับสัมผัสด้านในจนผมครางอื้อในลำคอ คุณชานเลี่ยหมุนวนก้านนิ้วรุกรานตรงตำแหน่งเดิมเพื่อปลุกเร้าอารมณ์และร่างกายของผมให้พร้อมสำหรับเขา
สายตาของผมปรือมองกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาอยู่ครู่เดียว
ผมจะโทษดินฟ้าอากาศหรือแม้แต่คุณชานเลี่ย
ที่ทำให้ผมกล้าทำในสิ่งที่ทำให้รู้สึกขลาดเขินแทบแย่แต่สภาพจิตใจในเวลานี้กลับย้ำบอกให้ผมทำมัน
ปลายนิ้วเรียวแตะลงที่กระดุมเม็ดที่สองเพราะเม็ดบนสุดถูกคุณชานเลี่ยปลดออกด้วยตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“อ๊ะ...” แรงส่งจากช่องทางด้านหลังทำให้ปลายนิ้วสั่นไหวแต่ในที่สุดกระดุมเม็ดที่สองก็หลุดออกจากรังดุม
ตามด้วยเม็ดที่สามและสี่แต่ไม่ถึงเม็ดที่ห้า
“ไปหัดยั่วมาจากไหน”
คุณชานเลี่ยกระทุ้งนิ้วทั้งสามแรงๆอีกสองสามครั้งโดยไม่ยอมละสายตาไปจากใบหน้าที่แดงซ่านของผม
ผมแปะมือลงบนลอนกล้ามท้องที่โผล่พ้นเสื้อออกมาเล็กน้อยเพื่อวอนขอให้เขาลดจังหวะลงก่อนที่เขาจะถอนนิ้วทั้งหมดออกไป
ช่องทางด้านหลังเต้นตุบๆเพราะส่วนที่เติมเต็มเมื่อครู่ขาดหายในขณะที่อารมณ์ยังเต็มตื้นอยู่ทุกอณูความรู้สึก
“ผ ผมเปล่า...อื้อ!”
เผลอจิกนิ้วลงบนหน้าท้องของเขาเมื่อความแข็งแกร่งสอดใส่เข้ามาแทนที่จนคับล้นไปทั่วร่าง
เข็มขัดราคาแพงและกางเกงสแล็คถูกถอดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าเขามักจะไวกับเรื่องแบบนี้เสมอ...จะดูเชี่ยวชาญเกินไปแล้ว
ผมกัดริมฝีปากจนแทบจะเป็นแผลเพราะความอึดอัดและปวดปร่าที่เกิดขึ้นกะทันหัน
แม้ว่าจะได้รับการปรนเปรอและเบิกทางมาบางส่วนแล้ว...แต่มันไม่ใกล้เคียงกันเลยสักนิด
นิ้วกับตัวตนของคุณชานเลี่ยน่ะ...
“ขอโทษ เฮียไม่ไหวแล้ว”
เขาจูบแก้มชื้นเหงื่อของผมเบาๆ
ใช้สองมือคอยพยุงสะโพกของผมขึ้นเล็กน้อยเพื่อรองรับแรงกระแทกทั้งหมดจากเขา สะโพกสอบเริ่มขยับเข้าออกกดเน้นย้ำลงตรงจุดที่ทำให้รู้สึกเสียวซ่านจนต้องครางเสียงดังออกมาอย่างน่าอาย
“อ๊ะ...อ่า”
ขาทั้งสองข้างที่พาดไหล่กว้างอยู่แทบจะไร้ความรู้สึกไปแล้ว
ปลายนิ้วที่เคยจิกหน้าท้องของเขาเริ่มขยับเปลี่ยนมาเกาะชายเสื้อที่ข้างเอวสอบ
ผมเชิดหน้าเผยอปากเพื่อกอบโกยอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะโดนคนขี้ขโมยก้มลงมาป้อนจูบ
สอดแทรกลิ้นเข้ามาเกี่ยวประสานกันจนมุมปากเลอะไปหมด
โต๊ะทำงานที่เคยคิดว่ามันคงหนักน่าดูเพราะตัวใหญ่มากและทำจากไม้เนื้อดีเริ่มสั่นคลอน
คุณชานเลี่ยเสยผมม้าของผมที่ชื้นไปด้วยเหงื่อจนมันลู่ตกลงมาปรกตาให้พ้นทางก่อนที่กลีบปากร้อนจะกดจูบข้างขมับตรงตำแหน่งที่มีไฝเล็กๆ
เป็นที่ที่เขาชอบจูบก่อนเข้านอนและตอนตื่น
ในทีแรกผมก็ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาชอบจูบขมับ บางครั้งผมรับรู้ได้เองเพราะยังไม่หลับ
บางครั้งก็หลับลึกไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็มั่นใจว่าเขาจะต้องแอบจูบขมับก่อนนอนแน่ๆ
และสุดท้ายผมก็ยิ้มออกมาได้เพียงเพราะเขากระซิบบอกก่อนนอนเมื่อคืนก่อนว่าเขาชอบมัน
“เฮีย..ฮ อ้ะ เฮียเลี่ย”
คำว่าเบาๆถูกกลืนลงคอเมื่อสะโพกสอบสวนกายเข้ามาจนสุดความยาวและค่อยๆลดความถี่เร็วลงหลังจากเร่งเครื่องมาสักพัก
ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยเหงื่อ
ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาตาปรอยก่อนจะใช้หลังมือซับเหงื่อที่ปลายคางออกให้เบาๆเรียกรอยยิ้มมุมปากบนใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายสองได้อย่างดี
“ปวดหลังไหม”
“..ม ไม่ครับ อื้อ”
“โกหก”
ปากที่กำลังอ้าออกเพื่อจะปฏิเสธข้อกล่าวหาถึงกับร้องเสียงหลงออกมาเมื่อร่างกายถูกเขาช้อนอุ้มจนตัวลอยขึ้นมาจากโต๊ะโดยที่ไม่ได้ทอดถอนแกนกายออก
สองแขนของผมโอบรอบคอของเขาไว้แน่นพลางเบียดแก้มลงกับซอกคอ
“อะ อ้ะ”
ทุกจังหวะการลงส้นเท้าของเขาทำให้ต้องร้องครางออกมาเบาๆ คุณชานเลี่ยอุ้มผมเดินออกจากโต๊ะเพียงห้าก้าวเขาก็แกล้งออกแรงงส่งจากท่อนแขนที่ช้อนอยู่ตรงต้นขาเพื่อกระชับร่างกายผมให้แน่นขึ้น
หากแต่มันส่งผลถึงช่วงล่างที่ยังเชื่อมกันอยู่จนทำให้เขาสามารถสอดใส่เขามาในตัวผมได้ลึกกว่าเดิมจนจุกไปทั่วท้องน้อย
คุณชานเลี่ยทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่เป็นฐานทัพประจำของผม
แรงกระแทกจากการนั่งทำให้ผมทุบหลังเขาไปหนึ่งทีเป็นการประท้วง
ขาทั้งสองข้างแบะออกข้างตัวในขณะที่สะโพกก็โดนฝ่ามือหนาจับกดลงไปบนความร้อนรุ่มที่พองคับแน่นจนอึดอัด
“ขึ้นให้เฮียหน่อย”
ผมส่ายหัวไปมาจนเส้นผมคลอเคลียไปกับซอกคอของเขา
แล้วก็ต้องร้องอื้อออกมาเพราะคนเอาแต่ใจกระแทกตัวเข้ามาเป็นการเร่งเร้า
จากเมื่อกี๊ที่คิดว่ามันลึกที่สุดแล้ว
หากแต่ท่านี้กลับทำให้เขาเข้ามาได้ลึกกว่าเดิมเสียอีก...ยิ่งความต้องการพุ่งขึ้นสูงเท่าไหร่
ร่างกายของผมก็สามารถเปิดรับตัวตนของเขาเข้ามามากขึ้นเท่านั้น
“ผม...ทำไม่เป็น อือ”
ผมมีโอกาสดื้อดึงกับเขาได้แค่สามวินาที
ร่างกายที่นั่งทับอยู่บนหน้าตักก็ถูกประคองสะโพกให้หมุนวนสร้างความคุ้นชินให้กับช่องทางที่ต้องรองรับความรู้สึกของเขาเข้าไปทั้งหมด
ฝ่ามือใหญ่ที่คอยช่วยบีบเค้นสะโพกเพื่อลดความเกร็งกับท่าทางและสถานที่ใหม่ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาจับช่วงเอวของผมให้ขยับขึ้นลงเบาๆ
เสียงครางหลุดออกมาแบบควบคุมไม่ได้ทุกครั้งที่ร่างกายสวนเข้าหากันในจังหวะเร็วขึ้น
ผมจำต้องวางมือเกาะไหล่เขาเพื่อส่งร่างกายตัวเองให้รับกับแรงกระแทกด้านล่าง
ละเลยความขลาดเขินเพื่อตอบสนองอารมณ์วาบหวามทั้งของตัวเองและของเขา เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าครางออกมาเบาๆอย่างพอใจยิ่งเร่งให้ผมกดสะโพกลงบนแกนกายของเขารัวเร็ว
ท่าทีเก้ๆกังๆในทีแรกเริ่มหมดไปเมื่อผมจับจังหวะได้ว่าขยับแบบไหนที่จะทำให้เขารู้สึกดี
คุณชานเลี่ยขบกรามแน่นเมื่อช่องทางตอดรัดความใหญ่โตเป็นจังหวะได้อย่างดี
กล้ามหน้าท้องและเนื้อผ้าของเสื้อเชิ้ตยิ่งสร้างความซ่านให้กับแกนกายของผมจนมันความอึดอัดแทบจะเดินมาถึงทางออก
เสียงเนื้อกระทบเนื้อกับเสียงเบียดเสียดจากโซฟากลายเป็นสิ่งเร้าอารมณ์ที่ดีที่สุดในช่วงเวลาร้อนรุ่มแบบนี้
ร่างกายของคนสองคนสอดประสานเข้าหากันเป็นจังหวะรักที่ไม่รู้ว่าจะมีจุดสิ้นสุดเมื่อไหร่
แรงเสียดสีที่ส่วนหน้าเร็วขึ้นพอๆกับแรงสวนกายเข้ามาจากช่องทางด้านหลัง
ผมกลั้นหายใจไปชั่วอึดใจหนึ่งเมื่อทนกับความเสียวซ่านไม่ไหวจนในท้ายที่สุดก็ปลดปล่อยความต้องการรอบสองออกมา
...รอบนี้เลอะเสื้อของเขาไปเต็มๆแบบไม่มีข้อแก้ตัว
“อ๊า...อ้ะ อ”
จิกเล็บลงบนหลังคอของคุณชานเลี่ยแน่นเมื่อความต้องการด้านล่างยังสวนเข้ามาไม่หยุดหย่อน
ผมหลับตาปี๋เมื่อโดนจับสะโพกให้หยุดนิ่งแล้วเขาก็เร่งจังหวะถี่รัวจนทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นคลอนอยู่บนตักแกร่ง
“ซ...อ่าห์”
เสียงครางทุ้มเป็นเสียงสุดท้ายที่ดังขึ้นพร้อมกับความอุ่นร้อนที่พุ่งเข้ามาในช่องทางด้านหลัง
เขาขยับกายอีกสองสามทีเพื่อรูดรั้งแรงอารมณ์ออกมาเก็บไว้ในร่างกายของผมจนหมด
มีต่ออีกนิดนึงนะคะ กลับไปอ่านที่เด็กดีเลย -> CLICK
มีต่ออีกนิดนึงนะคะ กลับไปอ่านที่เด็กดีเลย -> CLICK